WeChat ID :
: พี่ Ex ลูกค้าผมเค้าอยากเช่าตึก 10 ปี แต่ทำสัญญา เป็น 3+3+3 ปี แบบนี้ทำได้มั้้ยครับ
Ex: ถามว่าทำได้มั้ย...ทำได้แต่ไม่แนะนำ
: ทำไมอ่ะพี่
Ex : มีเวลาสัก 5-10 นาทีมั้ยล่ะ จะเล่าให้ฟัง
.
.
.
ในการทำสัญญาเช่าระยะยาว
มักจะเจอในรูปแบบทรัพย์เชิงพาณิชย์
เช่น ตึกแถว,โชว์รูม,สำนักงานออฟฟิส,โฮมออฟฟิส
หรือช็อปที่ทำการค้าต่างๆ
.
ที่ต้องทำระยะยาว
เพราะผู้เช่าที่หวังเอาสถานที่มาทำเชิงพาณิชย์
ไหนจะการตกแต่ง
ไหนจะอุปกรณ์/เฟอร์นิเจอร์
ไหนจะการวางระบบร้านหลังบ้าน
.
ถ้าเป็นหน้าร้าน
กว่าจะให้ลูกค้ามารู้จักร้านเรา
การย้ายสถานที่ไปมาเหมือนการย้ายที่อยู่อาศัย
อาจจะไม่ใช่การทำการค้าที่ดีนัก
.
ดังนั้นผู้เช่ามุ่งหวังมักจะเริ่มต้นการเช่า
อย่างน้อยขั้นต่ำอยู่ที่ 3 ปี
เพื่อลองตลาด
หรือบางคนที่ survey ทำการบ้านกับทำเลมาแล้ว
ก็อาจจะตัดสินเช่ายาว 10-30 ปีเลย
.
ปกติการทำสัญญาระยะยาวเกิน 3 ปีขึ้นไป
ผู้ให้เช่าและผู้เช่า
จะต้องจูงมือกันไป
จดทะเบียนที่สำนักงานที่ดิน
เพื่อสลักหลังโฉนดว่ามีการเช่าระยะยาวจำนวน x ปี
.
แต่การสลักหลังโฉนดนั้น
จะมีค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 1 %
ของค่าเช่าตลอดอายุสัญญาเช่า
ถ้ามีค่าหน้าดินระบุอยู่ในสัญญาเช่าระยะยาว
ก็จะต้องคิดรวมเข้าไปด้วย
.
และมีอีก 0.1%
คือค่าอากรสแตมป์
ค่าธรรมเนียมทั้งหมดจะเป็น 1.1%
.
กล่าวคือ
ถ้าสัญญาเช่าเดือนละ 50,000 บาท/เดือน
มีสัญญาเช่า 10 ปี
ค่าเช่าตลอดอายุสัญญาคือ 50,000 x 12 x 10 = 6,000,000 บาท
ค่าธรรมเนียมคือ 1% ของ 6MB = 60,000
ค่าอากรสแตมป์อีก 0.1% = 6,000
ทั้งหมดรวมเป็น 66,000 บาท
.
โดยค่าธรรมเนียมที่ต้องเสียนั้น
ส่วนใหญ่ผู้เช่ามักจะเป็นผู้รับผิดชอบ
แต่สามารถช่วยกันชำระ
หรือเป็นเงื่อนไขอื่นได้
ก็แล้วแต่การตกลง
.
ด้วยความที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมนี่แหละ
ทำให้หลายคนคิดวิธีการเลี่ยงภาษี
โดยเกิดการทำสัญญาเช่าแบบ 3+3+3... แทน
.
แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่า
การทำสัญญา 3+3+3... นั้น
ที่เขียนวันที่ให้ต่อกัน
แล้วเอามาเซ็นทีเดียว
.
เวลามีเรื่องถึงขั้นฟ้องร้องกัน
จะมีผลบังคับใช้ได้แค่สัญญาฉบับแรกฉบับเดียว
.
นั่นก็คือมีผลทางกฏหมายแค่ 3 ปีแรกนั้นแหละ
ปีที่ 4 เป็นต้นไป
ไม่สามารถนำมาฟ้องร้องได้
.
มันคือการหลีกเลี่ยงมาตรา 538 แห่ง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
.
ถึงแม้บางคนจะบอกว่า
ให้เพิ่ม"คำมั่น"ลงไปในสัญญา
บรรจุข้อความที่มีคำมั่นว่า
.
"เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาของสัญญาเช่าฉบับนี้
ผู้ให้เช่าตกลงให้คำมั่นแก่ผู้เช่าว่า
จะให้เช่าต่อไปอีกเป็นระยะเวลา x ปี
ภายใต้เงื่อนไขเดิมของสัญญานี้ทุกประการ
.
ถ้าจะให้ต่ออายุกันหลายได้หลายครั้ง
ก็ระบุจำนวนครั้งที่จะต่อสัญญากันให้ชัดเจน
.
รวมถึงเงื่อนไขข้อตกลงอื่นๆ
อย่างเช่น ผลต่างตอบแทนพิเศษ
เช่นผู้ให้เช่าสามารถเพิ่มค่าเช่าได้ในเรต x% ทุกๆ Y ปี"
.
และรายละเอียดอื่นๆไว้ให้ครบ
โดยเมื่อถึงกำหนด
มีการเสนอสนองกันครบแล้ว
ก็ใช้สัญญาเก่าบังคับต่อไปได้เลย
โดยไม่ต้องใช้สัญญาใหม่
.
.
.
แต่ "คำมั่น" ในสัญญาเช่านี้
ถ้าจะไม่ไปจดทะเบียน
ก็บังคับได้ไม่เกิน 3 ปี
.
ก็คือสัญญาแรก 3 ปี
แล้วก็เขียนบังคับคำมั่นให้เช่าต่อได้อีก 3 ปี
แบบนี้ไม่ต้องจดทะเบียน
.
แต่ถ้าสัญญาแรก 3 ปี
แล้วคำมั่นเขียนว่า
ให้เช่าต่อเกิน 3 ปี
แบบนี้ต้องไปจดทะเบียน
.
เมื่อมีการเสนอสนองตามคำมั่น
ถ้าฝ่ายคนให้เช่าไม่ยอมไปจดทะเบียน
ฝ่ายผู้เช่าฟ้องบังคับ
ให้คนให้เช่าไปจดทะเบียนได้
.
ดังนั้นง่ายสุดคือจะเช่ากันกี่ปี
ถ้าเกิน 3 ปีไปจดทะเบียนให้มันจบๆ
ไม่ต้องวุ่นวาย
.
การจะมีเล่นกับช่องว่างกฎหมาย
หาทางผูกพันยาวๆเกิน 3 ปี
มันไม่ใช่เรื่องง่าย
ถ้าพลาดขึ้นมาสัญญาก็ไม่มีผลบังคับ
.
ในฐานะที่ขึ้นศาลแพ่งมาเยอะ
อย่าไปคาดหวังกับช่องว่างทางกฏหมายมากนัก
คุณใช้ได้ อีกฝ่ายก็ใช้ได้
แล้วเดี๋ยวคุณจะเห็นสันดานความหน้าดาน
และความตอแหลของคน
เพื่อให้ตัวเองพ้นผิดในชั้นศาล
.
.
.
ประโยชน์ของการระบุการเช่าระยะยาวหลังโฉนด
มักจะเป็นสิทธิ์การคุ้มครองกับผู้เช่า
ให้ผู้เช่าให้มีเอกสิทธิดีกว่า
.
วันนึงที่ผู้เช่าลงทุนไปหลายล้าน
ธุรกิจกำลังไปได้สวย
จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องการสะดุดของสัญญาเช่า
.
ผู้ให้เช่าเห็นธุรกิจผู้เช่ากำลังเฟื่องฟู
เกิดอยากฮุบกิจการเอาไว้ทำเอง
ไม่ยอมต่อสัญญาเช่า
.
หรือเห็นธุรกิจกำลังดี
พอจะต่อสัญญาเช่าอีกฉบับ
ผู้ให้เช่าดันขึ้นค่าเช่าแบบหฤโหดขึ้นมา
แล้วผู้เช่าจะทำอย่างไร?
.
หรือผู้เช่าเช่าพื้นที่อยู่ดีๆ
ผู้ให้เช่าเกิดร้อนเงินอยากได้เงินก้อน
แอบเอาไปขายจนเกิดการเปลี่ยนมือขึ้นมา
.
แล้วเจ้าของคนใหม่
ต้องการใช้ประโยชน์พื้นที่เอง
ไม่ให้ผู้เช่ามาใช้ประโยชน์แล้ว
ก็จะเกิดปัญหารุงรังกันเข้าไปอีก
.
แต่ถ้ามีการสลักหลังโฉนดแล้ว
ถึงแม้จะมีเจ้าของรายใหม่เข้ามา
สิทธิ์การเช่าก็จะยังเป็นของผู้เช่า
จนกว่าจะครบกำหนดตามสลักหลังโฉนดอยู่ดี
.
การสลักหลังโฉนด
เพื่อคุ้มครองผู้ถือครองเอกสิทธิอื่น
เช่น จำนอง สิทธิอาศัย สิทธิเก็บกิน ภาระจำยอม
.
หากทำสัญญาระยะยาว
แบบสลักหลังโฉนด
จะคุ้มครองผู้มาซื้อต่อ
เพราะทุกอย่างจะระบุที่หลังโฉนด
ให้ผู้จะซื้อได้เห็นด้วยว่า
มีข้อผูกพันการเช่าระยะยาวอยู่
.
.
.
วันที่ทำสัญญาทุกอย่างดูหวานชื่นไปหมด
แต่ไม่มีใครรู้เลยว่า
อนาคตจะเกิดเรื่อง
จนถึงขั้นขึ้นศาลหรือไม่
.
วันทำสัญญาไม่จูงมือกันไปกรมที่ดิน
สุดท้ายก็จูงมือกันขึ้นศาล
.
อย่าพยายามหลีกเลี่ยงกฎหมาย
จะได้ไม่มีปัญหาในภายหลัง
เพราะปัญหาที่เกิดส่วนมาก
เกิดจากการเลี่ยงกฎหมาย
.
ดังนั้นจึงแนะนำให้จดทะเบียนต่อหน้า
เจ้าหน้าที่กรมที่ดินจะดีกว่า
เพราะเวลาขึ้นโรงขึ้นศาลมา
ค่าเสียหายอาจจะมากกว่า 1.1 %
ของค่าธรรมเนียมที่ควรจะต้องจ่ายตั้งแต่แรกก็ได้
.
.
.
ในฐานะเอเจ้นท์
ควรให้ความรู้และคำแนะนำ
แก่ผู้ให้เช่าและผู้จะเช่าอย่างตรงไหนตรงมา
ว่าการเช่าระยะยาวแบบจดทะเบียนกับไม่จดทะเบียน
มีข้อดีข้อเสียอย่างไร
แล้วให้ทั้ง 2 ฝ่ายเป็นคนตัดสินใจกันเอง
.
ปริณวัชญณ์ คณะภัควรรษณ์ (เอ็กซ์)
ผู้บริหาร บริษัท แมทชิ่ง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
AKA : เอเจ้นท์ฟิวแฟนแห่งดินแดนห้วยขวาง
.
อสังหา(ทั้งจักรวาล) / ลงทุน / การตลาด / การขาย
กฏหมาย / บัญชี / ภาษี / มู
.
ปรึกษาได้ทุกอย่างยกเว้นยืมเงิน
เตรียมบัตร Starbuck ไว้ด้วยนะ
.
ร่วมพูดคุยกันได้ที่