เคล็ดลับการถามลูกค้า ก่อนหาทรัพย์อสังหาฯ

เทคนิคการตั้งคำถามเพื่อตีโจทย์ลูกค้า ช่วยปิดดิลได้ไวและแม่นยำ

post date  โพสต์เมื่อ 13 เม.ย. 2568   view 68398
article

เวลาใครมาถามหาทรัพย์

อย่างเช่นหาซื้อที่ดินในเมือง

ไม่ว่าจะน้องเอเจ้นท์หรือลูกค้า

รบกวนกรุณาทำการบ้านมาก่อนด้วย

ไม่งั้นจะเจอคำถามแบบนี้

.

1.ซื้อไปทำอะไร

2.งบเท่าไหร่

3.ทำเลคือที่ไหน อย่าบอกคร่าวๆว่าในเมือง ในเมืองของคุณคือที่ไหน เมืองแต่ละคนไม่เหมือนกัน สุขุมวิท สาทร พระราม 9 ส่วนเมืองในหัวผมคือห้วยขวาง

4.พร้อมจะตัดสินใจเมื่อไหร่

5.ใครเป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ (ใช่คนที่เราคุยอยู่ด้วยมั้ย)

.

6.จากข้อ 1 สมมติซื้อไปสร้างคอนโด

6.1.จะสร้างตึกสูงหรือตึก 8 ชั้น

6.2. product ที่จะขายราคากี่บาท/ตรม

(มันจะสัมพันธ์กับขนาดที่ดินและผังเมือง)

.

7.จากข้อ 1 สมมติซื้อไปสร้างบ้าน

7.1 สมาชิกในบ้านกันกี่คน

7.2 มีจอดรถกี่คัน

7.3 ที่ทำงานหรือจุดที่ไป-กลับบ่อยๆอยู่ที่ไหน

(มันจะสัมพันธ์กับพื้นที่ใช้สอยและฟังค์ชั่นในบ้าน)

.

8.จากข้อ 1 สมมติกำลังหาเพื่อไปทำออฟฟิสหรือทำธุรกิจ

8.1 ทำธุรกิจอะไร

8.2 พนักงานกี่คน / ลูกค้ากี่คน

8.3 ที่จอดรถกี่คัน

8.4 สิ่งที่ต้องการหลีกเลี่ยงในธุรกิจของคุณ เช่น ไม่ใกล้หอพัก หรือแหล่งชุมชนมากเกินไป ไม่เอาถนนวันเวย์ ไม่เอาใกล้ทางด่วน(กลัวเรื่องเสียง)

(มันจะสัมพันธ์กับกิจการและข้อกฏหมายอสังหาบางอย่าง)

.

จริงๆมีคำถามเยอะกว่านี้

พอเห็นไอเดียการตั้งคำถามเน๊อะ

.

ถ้าลูกค้าตอบได้เกิน 3 ใน 4

จะช่วยหาให้

.

แต่ถ้าตอบได้ไม่ถึงครึ่ง

หรือขอให้โยนๆมาดูก่อน

จะถือว่าเป็น Shopping Stage

ไปทำการบ้านให้มากกว่านี้ก่อนนะ

แล้วค่อยมาคุย

จะได้เข้าใจตรงกัน

.

บางคนอาจจะดูว่าเราหยิ่ง เรื่องมาก ถามเยอะ

มีลูกค้ามาทักแล้ว

จะตั้ง criteria อะไรมากมาย

โยนๆไปเดี๋ยวเค้าถูกใจอันไหน

เค้าก็ถามรายละเอียดเพิ่มเองแหละ

.

.

.

คุณชอบหรอ

เวลาส่งงานไป...เค้าอ่าน

แต่ไม่ตอบอะไรกลับมา

.

นั่นเป็นเพราะว่า

เค้าไม่รู้จะไปต่อกับเรายังไง

งานที่เสนอไป

อาจจะยังไม่ตอบโจทย์ลุกค้า

เอเจ้นท์ไม่เข้าใจสิ่งที่ลูกค้าต้องการ

หรือลูกค้าอาจจะยังไม่มีอะไรในหัวก็ได้

.

ลูกค้าไม่ผิด

ที่ยังไม่มีอะไรในหัว

แต่เอเจ้นท์มืออาชีพ

ต้องค่อยๆคุ้ยแคะแกะเอา

หาสิ่งที่ลูกค้าต้องการให้ได้

.

คุณไม่ชอบหรอ

เสนองานไปแค่2-3แปลง

แต่สามารถจบดิลตอนอยู่หน้างานได้เลย

.

เราไม่รู้หรอกว่า

ลูกค้ามีข้อมูลมากน้อยแค่ไหน

ได้ยินอะไรมาแบบผิดๆถูกๆ

.

เราต้องสร้างคำถาม

ตีกรอบให้แคบที่สุด

ไม่ทำงานแบบไร้ทิศทาง

เหมือนกำลังวิ่งอยู่ในเขาวงกต

.

ทุกคนมีต้นทุน

เวลาทุกคนมีค่า

บริหารมันให้ดี

การเริ่มต้นด้วยคำถามไม่กี่ข้อ

มันคือการนำทางไปสู่คำตอบอะไรหลายๆอย่าง

.

เสียเวลาช่วงแรก

ดีกว่าลากยาวไปช่วงหลัง

เพียงเพราะคุณเสียดายลูกค้า

แต่ไม่สามารถหาสิ่งที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ซะที

.

อย่าเกรงใจที่จะถาม

อย่ากลัวที่จะคุยกับคนรวย

ผมเห็นน้องเอเจ้นท์หลายคน

ไม่กล้าคุยกับคนมีเงิน

ไม่กล้าตั้งคำถามกับคนมียศมีเจ้า

.

เป้าหมายของเรา

ไม่ใช่การแสดงชนชั้นวรรณะ

หรือฐานะทางสังคม

แต่มันคือการปรับจูน vision

เพื่อทำธุรกิจร่วมกัน

.

ลูกค้ากำลังหาอะไรอยู่

เราถืออะไรไว้บ้าง

แล้วดูว่ามันมีสิ่งไหน

ที่พอจะเป็นไปได้มั้ย

.

ไม่ใช่คนนึงไม่กล้าหาทางออก

ส่วนอีกคนก็ไม่ได้สนใจทางเข้า

แล้วเมื่อไหร่มันจะได้ไปต่อกัน

ดังนั้น...เมื่อเรามาเจอกันแล้ว

เราต้องหาทางออกร่วมกัน

.

นี่แหละคือเคล็ดลับของการปิดดิล

ในระยะเวลาอันรวดเร็ว

ที่แม้แต่ป้าข้างบ้านก็คาดไม่ถึง

.

ร่วมพูดคุยกันได้ที่

https://www.facebook.com/Ex.MatchingProperty/posts/pfbid0hQeUX6aakdjbawvuJMmdWyJ7UrCur9Z1isBwAakoFPAymG8JnUFTCZ4UJnHj2BEil

บทความที่เกี่ยวข้อง (3)