9 วิธีเลือกเอเจ้นท์ซื้อบ้านที่ใช่สำหรับคุณ

จากมือสมัครเล่นถึงมืออาชีพ: เลือกเอเจ้นท์ยังไงไม่ให้เจอมิจฉาชีพ

มี FC ทักมาถามว่า
เห็นเขียนถึง Agent หลายบทความแล้ว
อยากให้เขียนถึงมุมลูกค้าบ้าง
ว่าถ้าเราเป็นลูกค้า
อยากจะซื้อบ้าน/คอนโด สักหลัง
ต้องเลือกเอเจ้นท์ยังไง
เพราะทุกวันนี้ดูไม่ออกเลยว่า
คนไหนเป็นเอเจ้นท์เป็นมือสมัครเล่น, มืออาชีพ
หรือเป็นมิจฉาชีพแฝงตัวมา
.
"9 วิธีการเลือกเอเจ้นท์ที่ใช่สำหรับคุณ"
.
1. พูดให้น้อย ฟังให้เยอะ (เหมือนจีบกันใหม่ๆ)
เอเจ้นท์ที่ดี ไม่ได้เริ่มจาก “ขายบ้าน”
แต่เริ่มจาก “ฟังความต้องการของเรา”
.
ถ้าเปิดมาบอกงบ 3 ล้าน แถวลาดพร้าว
แต่ส่งลิงก์บ้าน 8 ล้าน แถวพัฒนาการมา
เริ่มต้นมาแบบนี้
ควรหนีให้ไกล
.
เพราะเอเจ้นท์คนนี้
ต้องการขายของที่มีอยู่ในมือของเค้าเท่านั้น
ไม่ได้สนใจความต้องการของเราสักนิด
.
.
.
2. ไม่กดดันว่า “ต้องจองวันนี้เท่านั้น!”
เอเจ้นท์สายกดดันด้วยประโยคคลาสสิก
> “พี่ครับ ห้องนี้คนอื่นก็เล็งอยู่นะ”
> “ลูกค้าผมจะวางมัดจำตอนบ่าย ถ้าพี่ไม่เอา...”
.
เฮ้ยยยย!!!! ใจเย็นพ่อคนขาย!!!!
แบบนี้ไม่ใช่คนแนะนำบ้าน
ถ้าบ้านหลังไหน หรือราคาดีลมันดีจริง
ไม่ต้องหลอกลูกค้าด้วย FOMO (Fear of Missing Out)
.
ให้ Space กับลูกค้าบ้าง
ไม่ต้องบีบเค้าซะไม่มีเวลาให้คิดเลย
ของไม่ใช่บาท 2 บาท
จะ CF ทันทีแบบซื้อขนมทาง TT เลยคงไม่ใช่
.
.
.
3.ให้ข้อมูลละเอียด แบบไม่ต้องขุดเพิ่ม
ถามเรื่องค่าโอน ค่าจดจำนอง ส่วนกลาง ยิบย่อย
ต้องไม่อึกอักที่จะตอบ
ถามผังเมือง กฎหมาย
เขาตอบได้หรือหาข้อมูลมาให้ได้
.
ถ้าแค่รู้ว่า บ้านนี้สวยมากนะคะ
51 ตรวา 250 ตรม
4 นอน 5 น้ำ ที่จอดรถ 2 คัน
ท่องแบบนกแก้วนกขุนทอง
แต่ไม่สามารถมีชุดข้อมูลนอกเหนือจากนี้ได้
แบบนี้ต้องคิดเพิ่มนิดนึง
.
และเมื่อได้ข้อมูลจากเอเจ้นท์แล้ว
ก็อย่าเชื่อทันที
ลูกค้าเองก็ต้องหาข้อมูลเพิ่มด้วย
เพื่อรีเช็คความแม่นข้อมูลของเอเจ้นท์
เพราะถ้าเกิดปัญหาขึ้นมา
เอเจ้นท์ไม่ได้อยู่รับผิดชอบกับเรานะ
.
.
.
4. พาไปดูบ้านจริง ไม่ใช่แค่ส่งลิงก์แล้วจบ
เอเจ้นท์ควรพร้อมไปดูบ้านกับเรา
คอยเตือนสติให้เราค่อยๆดู ตัดสินใจดีๆ
ไม่ใช่โยนเบอร์เจ้าของบ้านมาให้
แล้วบอก "พี่ลองโทรคุยเองเลยนะ
เดี๋ยวผมไปเอาค่าวิชาชีพกับเจ้าของบ้านเอง
พี่จะได้สบายใจด้วย ที่ได้คุยกับเจ้าของบ้านโดยตรง"
.
เอเจ้นท์ที่ดีไม่ใช่แค่การ forward ไลน์
แต่ต้องร่วมเคียงบ่าเคียงไล่ไปกับเราตั้งแต่ต้นจนโอน
ช่วยเราไฟต์เรื่อง defect บ้าน
ช่วยเราไฟต์เรื่อง Condition Term ทุกอย่าง
ช่วยเราไฟต์เงื่อนไขสัญญาที่ไม่เป็นธรรม
เพื่อเป็นดิลที่ลงตัว
ได้ประโยชน์กันทั้ง 2 ฝ่าย
.
.
.
5.ซื่อสัตย์เวลามีปัญหา ไม่หมกเม็ดข้อมูล
ถ้าบ้านมีข้อเสียหรือข้อควรระวัง
เอเจ้นท์ควรแจ้งให้ทราบ
และให้เราประเมินสถานการณ์
ว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้
ไม่ใช่เอาใบบัวมาปิดไว้
.
เช่น บ้านน้ำซึม บ้านหลังนี้อยู่ในขั้นฟ้องร้อง
หรืออยู่ในพื้นที่เสี่ยงเวนคืน
หรือแม้แต่การตกลงซ่อมแซมบ้าน
ควรประสานให้เจ้าของส่งมอบบ้านที่พร้อมอยู่
ไม่ใช่ว่าเซ็นๆสัญญาไปก่อน
เดี๋ยวให้เจ้าของจัดการทีหลัง
.
.
.
6.มีไหวพริบเรื่องเจรจา
บ้านทุกหลังต้องมีการเจรจาต่อรองอยู่แล้ว
เอเจ้นท์ที่ดีจะต่อให้เราได้ราคาที่สมเหตุสมผล
ไม่ใช่ยอมเจ้าของไปซะทุกอย่าง
.
ส่งคำถามอะไรไป ก็ตอบทันที
> “เค้าลดไม่ได้เลยค่ะ”
> “เจ้าของคนนี้เขาไม่พูดเยอะ”
หรือใช้การแคปหน้าจอคำพูดของอีกฝ่ายมาทุกครั้ง
โดยไม่กลั่นกรองให้การเจรจามันดูมีความเป็นไปได้
แบบนี้คือเอเจ้นท์ที่แค่ “ส่งสาร” ไม่ใช่ “เจรจาต่อรอง”
.
.
.
7.มีรีวิว หรือผลงานให้เช็กได้
ยุคนี้ไม่มีใครซื้อของไม่อ่านรีวิวบ้าง
เอเจ้นท์ก็เหมือนกัน
หาชื่อเขาในกลุ่มอสังหาฯ หรือ Marketplace
ส่อง Facebook ดูว่าคนอื่นว่าไง
มีคนชมมั้ย?
มีคนเตือนรึเปล่า?
ปกติทำสายงานนี้ full time หรือไม่
วันนี้ขายบ้าน อีกวันขายครรีม วันมะรืนขายรถ สัปดาห์ขายวิตามิน
แบบนี้ก็งงนะ สรุป expert ทุกเรื่องเลย?
profile ส่วนตัวเค้ามี engangment อะไรบ้างรึเปล่า
ไม่ใช่มีแค่ 2 like คือแค่นางกับผัวนาง
.
.
.
8.ค่าดำเนินการชัดเจน ไม่มีอะไรแอบแฝง
ปกติคนซื้อไม่ต้องจ่ายคอมมิชชันให้กับเอเจ้นท์
เพราะส่วนนี้เจ้าของบ้านมักจะเป็นคนจ่าย
ยกเว้นต้องการหา Agent Focus การหาทรัพย์ให้เป็นพิเศษ
ก็จะมีการตกลงกันเป็นกิจจะลักษณะ
.
แต่ถ้ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
เอเจ้นท์ควรแจ้งลูกค้าล่วงหน้า
ว่าการขอให้ช่วยประสานการขอเอกสารราชการ
อาจมีการเบิกค่ารถค่าเดินทางเพิ่มนะ
ไม่ใช่ตอนจบค่อยยื่นบิล แล้วบอก
“ขอค่าดำเนินการ 10,000 นะคะ”
.
.
.
9. จริตเรากับเอเจ้นท์ คลิ๊กกันมั้ย
เอเจ้นท์ก็คือคนธรรมดาคนนึง
มีบุคลิกและนิสัยที่เป็นลักษณะเฉพาะเหมือนกับลูกค้า
ถ้าเราเป็นพวกสายข้อมูล
เราควรเลือกเอเจ้นท์ที่แน่นข้อมูลเหมือนกัน
เป็นอับดุล ถามมาตอบได้
ไม่ใช่คุยกับเอเจ้นท์เร่งปิดการขาย
ด้วยการกระตุ้น emotional
.
ถ้าเราเป็นสายเฮฮา
ก็เลือกเอเจ้นท์ที่เม้ามอยเก่ง เฮไหนเฮนั้นเหมือนกัน
ไปเจอเอเจ้นท์สายข้อมูล
เดี๋ยวจะบรรยากาศกร่อยกันซะเปล่าๆ
.
ฟังดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่มันสำคัญมาก
เลือกคนที่เราสบายใจด้วย
เพราะนี่คือเพื่อนร่วมทาง
บ้านคือชีวิตของเรา
เราควรเลือกคนที่มาร่วมเดินทางเพื่อสร้างชีวิตใหม่
ที่เหมาะสมและถูกจริตกับเราตั้งแต่ต้น
.
.
.
บ้านคือสินทรัพย์ใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา
ไม่ใช่การซื้อครั้งเดียวแล้วจบ
เมื่อซื้อแล้ว บ้านต้องอยู่กับเราไปตลอดชีวิต
การเลือกเอเจ้นท์ก็เหมือนกับเราเลือกคนพาเราข้ามแน่น้ำ
ให้เลือกคนที่สามารถพาเราไปถึงอีกฝั่งได้ทุกสถานการณ์
ไม่ใช่เห็นทรงไม่ดีหน่อยก็ทิ้งเราลงกลางแม่น้ำ
.
#บ้านที่ดีต้องเริ่มจากการเลือกคนดีๆพาไปดู