WeChat ID :
ปีนี้เศรษฐกิจไม่ดีเหมือนที่หลายคนรู้กัน
โดยเฉพาะตลาดอสังหาริมทรัพย์
ก็มีผลกระทบไม่น้อยกว่าวงการอื่นๆ
และอสังหาฯเป็นทรัพย์สิน
ที่มีสภาพคล่องต่ำอยู่แล้ว
จึงได้รับผลกระทบอย่างชัดเจน
.
เจ้าของอสังหาฯ หลายเจ้า
ที่เข้ามาพูดคุยกับผม
ทั้งระดับคนมีแบบเหลือๆ
คนมีชื่อเสียง
หรือในวงการทางการเมือง
.
ผมมักจะได้ยินคำพูดติดปากจากเจ้าของบ่อยๆว่า
“ช่วยปล่อยหน่อยคุณ Ex จะเงินสีอะไรก็ได้ ไม่เกี่ยง”
คำพูดนี้เหมือนกึ่งเล่นกึ่งจริง
แต่หลายคนไม่ทราบว่า
ผลลัพธ์ของการทำวิธีนี้
อาจมีผลเสียกับชีวิตระยะยาว
.
เพราะ เงินที่มาจากแหล่งที่ไม่ขาว
ไม่ได้แค่เสี่ยง “คดีฟอกเงิน”
แต่ยังทำให้บ้านที่ขายได้
กลายเป็นของกลาง
.
เงินที่ได้มา…กลายเป็นของคืนรัฐ
และที่ร้ายสุด
ชื่อของเจ้าของถูกขึ้นบัญชีดำกับ ปปง.
.
.
.
เงินเทา เงินดำ ต่างกันอย่างไร?
เงินเทา (Grey Money)
คือเงินที่ได้มาจากธุรกิจ “กึ่งถูกกฎหมาย”
หรือ “ยังไม่มีการเอาผิดชัดเจน” เช่น
เว็บพนันออนไลน์
ร้านเกม/บาร์ที่มีการพนันแฝง
นายทุนคริปโตนอกระบบ
ธุรกิจเงินสดที่ไม่เสียภาษี
.
ซึ่งลักษณะของเงินเทา
เงินมักสะอาดในรูปแบบบัญชี
โอนจริงจากธนาคาร
แต่แหล่งที่มา
ผิดกฎหมายทางภาษี
.
เจ้าของเงินจึงพยายาม
เปลี่ยนแปลงรูปทรัพย์สิน
ให้ดูเป็นรายได้ปกติ
เช่น ซื้อคอนโด ที่ดิน บ้าน รถหรู ทองคำ ฯลฯ
.
.
เงินดำ (Black Money)
คือเงินที่มาจาก “การกระทำผิดกฎหมายโดยตรง” เช่น
ค้ายาเสพติด
ค้ามนุษย์
ฟอกเงิน
ปลอมเอกสารและฉ้อโกง
เงินดำมักเข้าสู่ระบบ
ผ่านการซื้อทรัพย์สินที่โอนง่าย
และมีมูลค่าสูง
.
อสังหาริมทรัพย์
จึงเป็นช่องทางฟอกเงินยอดนิยม
อันดับต้นๆของประเทศ
.
ซึ่งถ้าเรามาดูข้อกฎหมายของบทลงโทษการฟอกเงิน
จะเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายโดยตรง ดังนี้
.
1.พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
ปปง. มีอำนาจ “อายัดทรัพย์สิน”
ที่สงสัยว่ามีที่มาจากการกระทำผิด
สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ถึง 10 ปี
.
2.ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 – 361
การร่วมซ่อนเร้นหรือรับโอนทรัพย์
ที่ได้จากความผิด
มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี
.
3.กฎหมายว่าด้วยการทำธุรกรรมทางการเงิน
การรับเงินสดเกิน 2 ล้านบาทโดยไม่มีหลักฐานที่มา
ถือว่ามีความเสี่ยงเข้าข่ายฟอกเงิน
.
.
ซึ่งสิ่งที่คนขายอสังหามักมองข้ามกันคือ
1. ทรัพย์ถูกอายัดแม้จะโอนแล้ว
บ้านหรือคอนโดที่ซื้อด้วยเงินเทาหรือเงินดำ
แม้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์แล้ว
ก็สามารถถูกอายัดหรือยึดคืนโดย ปปง. ได้
และที่สำคัญ
คนขาย “ไม่ได้รับเงินคืน”
เพราะรัฐถือว่าเป็นเงินผิดกฎหมายตั้งแต่ต้น
.
2. คนขายอาจโดนข้อหา “ร่วมฟอกเงินโดยไม่รู้ตัว”
กรณีที่ผู้ขายรับเงินสด
หรือโอนเงินมาจากบัญชีบุคคลอื่น
โดยไม่มีการตรวจสอบที่มา
.
เจ้าหน้าที่สามารถตีความได้ว่า
“มีส่วนร่วมโดยเจตนาแฝง”
.
อย่างเคสที่เคยเห็น
เจ้าของบ้านรับเงินสด 20 ล้านบาท
จากผู้ซื้อโดยไม่ถามที่มา
หลังจากนั้นพบว่า
เงินมาจากเว็บพนัน
ผู้ขายถูกเรียกสอบและบัญชีถูกอายัดทั้งหมด
.
3. นายหน้าก็ไม่รอด
นายหน้าที่รับเงินมัดจำ ค่าคอม หรือถือเงินแทน
หากภายหลังพบว่าเป็นเงินจากการฟอก
แม้เพียงชั่วคราว
ก็เข้าข่ายความผิด
เพราะกฎหมายระบุว่า
“การช่วยเหลือให้ซ่อนแหล่งที่มาของเงิน
ถือเป็นการฟอกเงินเช่นกัน”
.
4.ธนาคารสามารถระงับธุรกรรมได้ทันที
หากพบความผิดปกติ
เช่น โอนเงินจากหลายบัญชี
ภายในระยะเวลาสั้น ๆ
หรือโอนจากต่างประเทศ
โดยไม่มีเอกสารยืนยัน
ธนาคารมีสิทธิระงับการโอนและรายงาน ปปง. ทันที
โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า
.
ผลกระทบที่ตามมาหลังจากโดนคดีฟอกเงิน คือ
1.สูญเสียทรัพย์สินโดยไม่ได้เงินคืน
รัฐสามารถยึดบ้านหรือที่ดินที่เกี่ยวข้องกับเงินผิดกฎหมายได้ทันที
2.ชื่อถูกขึ้นบัญชีดำกับธนาคารและ ปปง.
ไม่สามารถเปิดบัญชีใหม่ หรือขอสินเชื่อได้
3.กระทบชื่อเสียงทางธุรกิจและอาชีพ
4.คดีอาญาและภาษี
เงินที่รับเข้ามาโดยไม่มีการยื่นภาษี
จะถูกเรียกเก็บย้อนหลัง
พร้อมเบี้ยปรับและดอกเบี้ย
.
พอหลายคนทราบถึงผลกระทบตรงนี้
ก็เริ่มกังวลว่า
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร
ว่าเงินที่มาซื้ออสังหาฯ
เป็นเงินที่ผิดกฎหมายหรือไม่
.
จริงๆแล้วเราสามารถป้องกันตัวเอง
จากการรับเงินผิดกฎหมายได้ดังนี้
.
1.เจ้าของทรัพย์
ตรวจสอบ Statement ของผู้ซื้อทุกครั้ง
หลีกเลี่ยงการรับเงินสด
ให้โอนกรรมสิทธิ์ชื่อเดียวกับผู้ซื้อเท่านั้น
เก็บหลักฐานการชำระเงินและเอกสารทุกขั้นตอน
.
2.นายหน้า
อย่ารับเงินมัดจำแทนโดยไม่ทราบที่มา
ทุกดีลควรระบุช่องทางการชำระเงินในสัญญาให้ชัด
ถ้าพบความผิดปกติ เช่น โอนหลายบัญชี หรือไม่ยอมออกเอกสาร
ควรหยุดดีลชั่วคราว
และแจ้ง ปปง. เพื่อคุ้มครองตัวเอง
.
3.ผู้ซื้อที่ใช้เงินสดจำนวนมาก
เตรียมเอกสารแสดงที่มาของเงิน (รายได้, เงินกู้, มรดก ฯลฯ)
หากเป็นเงินต่างประเทศ
ต้องมีใบรับรองการโอน (Foreign Exchange Transaction Form – FET)
.
ดังนั้น
อสังหาริมทรัพย์คือสินทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ในชีวิตของใครหลายคน
อย่าให้มันกลายเป็นหลักฐานคดีฟอกเงิน
เพียงเพราะคำว่า
“จะเงินสีอะไรก็ได้ ขอให้มาซื้อ”
.
เงินที่ดี ไม่ใช่เงินที่มากที่สุด
แต่คือเงินที่คุณใช้ได้อย่างปลอดภัยที่สุด
.
เพราะในวันที่ ปปง. เข้ามาเคาะประตูบ้าน
คุณจะเข้าใจคำว่า “เงินสีอะไรก็ได้”
มันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยอีกต่อไป
.
ร่วมพูดคุยกันได้ที่