การติดอากรแสตมป์ในสัญญาเช่า — เรื่องเล็กที่กลายเป็นเรื่องใหญ่

การติดอากรสแตมป์ในสัญญาเช่า

เรื่องเล็กที่กลายเป็นเรื่องใหญ่ได้

99% ของเอเจ้นท์สายปล่อยเช่าไม่รู้เรื่องนี้

.

ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์

“สัญญาเช่า”

ไม่ว่าจะเป็นคอนโด บ้าน ที่ดิน หรือพื้นที่พาณิชย์

มักถูกมองว่าเป็นเพียงเอกสารที่มีข้อความเหมือนกัน 2 ฉบับ

ที่คู่สัญญาเซ็นกันก็จบ

.

แต่ในความจริงแล้ว

เอกสารเหล่านี้คือ “หลักฐานทางกฎหมาย”

ที่อาจถูกหยิบไปใช้ในศาลได้

เมื่อเกิดข้อพิพาท

และสิ่งเล็ก ๆ ที่คนมักมองข้าม

ก็คือการติดอากรสแตมป์

.

#อากรสแตมป์คืออะไร #และทำไมต้องติด?

อากรสแตมป์ไม่ใช่ภาษีมูลค่าเพิ่ม

ไม่ใช่ค่าธรรมเนียมกรมที่ดิน

แต่เป็น “ภาษีอากรประเภทหนึ่ง”

ที่กฎหมายกำหนดให้เอกสารสัญญาบางประเภทต้องมีการเสีย

เพื่อให้เอกสารนั้นมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย

.

สำหรับสัญญาเช่า

มาตรา 14 แห่งประมวลรัษฎากรบังคับชัดว่า

ต้องติดอากรสแตมป์ในอัตราที่กำหนด

หากไม่ติด จะมีผล 2 เรื่องใหญ่คือ

.

1.สัญญานั้นจะนำไปใช้อ้างอิงในศาลไม่ได้

จนกว่าจะเสียอากรย้อนหลังพร้อมเบี้ยปรับ

2.ผู้ที่รับเอกสาร (มักเป็นผู้ให้เช่า)

จะถูกมองว่าเป็นผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการติด

.

#อัตราอากรสแตมป์สัญญาเช่า

อัตรามาตรฐาน: 1 บาทต่อทุก ๆ 1,000 บาท

ของค่าเช่าตลอดอายุสัญญา (ถ้าเช่าปีต่อปี ก็คิดตามปี)

ขั้นต่ำ: ถ้าสัญญามีค่าเช่ารวมไม่ถึง 1,000 บาท ก็ต้องติด 1 บาท

กรณีต่อสัญญา: ต้องคิดอากรใหม่ตามค่าเช่ารวมของสัญญาต่ออายุ

ตัวอย่างเช่น

เช่าเดือนละ 20,000 บาท ระยะเวลา 3 ปี = 720,000 บาท

อากรแสตมป์จะเท่ากับ 720 บาท

.

ถ้าเช่า 1 ปี แล้วทำสัญญาใหม่อีก 1 ปี

ต้องเสียใหม่ตามยอดค่าเช่าของปีนั้น

.

#ถ้าไม่ติดจะเกิดอะไรขึ้น?

ภาพที่เจอบ่อยคือ

สัญญาเช่าเก็บในลิ้นชักโดยไม่มีอากรสแตมป์

จนวันที่เกิดปัญหา เช่น ผู้เช่าหนี ไม่จ่ายค่าเช่า

หรือทำทรัพย์สินเสียหาย

.

เจ้าของหยิบสัญญาไปฟ้องศาล

แต่ศาลไม่รับเพราะยังไม่ได้เสียอากร

ต้องไปชำระย้อนหลังพร้อมเบี้ยปรับ #6เท่า

บางเคสค่าเช่าไม่มาก

แต่เบี้ยปรับทำเอาปวดหัวไปทั้งคู่

.

#ใครต้องเป็นคนติดอากรสแตมป์?

หลักทั่วไปคือผู้ให้เช่า

เพราะเป็นผู้ “ได้ประโยชน์” จากการทำสัญญา

แต่ในทางปฏิบัติ

สามารถตกลงกันในสัญญาได้

เช่น ผู้เช่าเป็นคนออกค่าใช้จ่ายแทน

แต่ต้องระบุชัดเจน

ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นภาระของผู้ให้เช่าโดยปริยาย

.

#เทคนิคจากเคสจริง

ทำสัญญาเช่าเสร็จ อย่าเพิ่งชะล่าใจ

ให้ไปติดอากรแสตมป์

ภายใน 15 วันนับแต่วันลงนาม

.

ถ้าสัญญายาว เช่น 3–30 ปี

ควรคำนวณอากรให้ถูกต้องตั้งแต่แรก

เพราะตัวเลขอาจสูง

.

สำหรับเช่าที่ดินหรืออาคารพาณิชย์

ควรแนบใบเสร็จอากรไว้กับสัญญาด้วย

เพื่อป้องกันปัญหาเวลาใช้เป็นหลักฐาน

.

#อากรสแตมป์ซื้อที่ไหน

ซื้อที่กรมสรรพากรใกล้บ้าน

ไม่ใช่ที่ไปรษณีย์ไทย

ย้ำ!!! ไม่ใช่ที่ไปรษณีย์ไทย

.

การติดอากรแสตมป์ในสัญญาเช่า

เป็นเรื่องเล็กที่หลายคนละเลย

แต่ผลทางกฎหมายกลับไม่เล็กเลย

มันคือเงื่อนไขสำคัญ

ที่ทำให้สัญญามีน้ำหนัก

และสามารถฟ้องร้องได้

.

หากคุณเป็นเจ้าของทรัพย์

หรือผู้ลงทุนอสังหาฯ อย่ามองข้าม

เพราะเอกสารที่ถูกต้องเพียงฉบับเดียว

อาจช่วยป้องกันความเสียหายเป็นหลักล้านในอนาคต

.

ส่วนสำหรับเอกสาร

ที่ต้องทำการติดอากรแสตมป์

มีทั้งหมด 28 ชนิดด้วยกัน

ประกอบไปด้วย

.

1.เอกสารเช่าที่ดิน โรงเรือน สิ่งปลูกสร้าง

2.เอกสารโอนใบหุ้น หุ้นกู้ พันะบัตร และใบรับรองหนี้

3.เอกสารการเช่าซื้อทรัพย์สิน

4.เอกสารการจ้างทำของ

5.เอกสารกู้ยืม เอกสารตกลงให้เบิกเงินเกินบัญชีจากธนาคาร

6.เอกสารกรมธรรม์ประกันภัย

7.เอกสารใบมอบอำนาจ

8.เอกสารใบมอบฉันทะสำหรับให้ลงมติในที่ประชุมของบริษัท

9.ตั๋วแลกเงินหรือตราสาร และตั๋วสัญญาใช้เงินหรือตราสาร

10.เอกสารบิลออฟเลดิง

11.เอกสารใบหุ้น หรือใบหุ้นกู้ พันธบัตรของรัฐบาลใด ๆ ที่ขายในประเทศไทย

12.เช็ค หรือหนังสือใด ๆ ที่ใช้แทนเช็ค

13.ใบรับฝากเงินประเภทประจำของธนาคารโดยมีดอกเบี้ย

14.เลคเตอร์ออฟเครดิต

15.เช็คสำหรับผู้เดินทาง

16.เอกสารใบรับรอง

17.เอกสารจำนำ

18.เอกสารการค้ำประกัน

19.ใบรับรองของคลังสินค้า

20.เอกสารคำสั่งให้ส่งมอบของ

21.เอกสารตัวแทน

22.เอกสารคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ

23.เอกสารคู่ฉบับ หรือคู่ฉีกแห่งตราสาร

24.เอกสารหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทจำกัด

25.เอกสารข้อบังคับของบริษัทจำกัดที่ส่งต่อนายทะเบียน

26.เอกสารข้อบังคับใหม่ หรือสำเนาหนังสือบริคณห์สนธิ

27.เอกสารหนังสือสัญญาห้างหุ้นส่วน

28.เอกสารใบรับ

.

Cr.รูปภาพประกอบจาก Peakaccount

.

ร่วมพูดคุยกันได้ที่

https://www.facebook.com/Ex.MatchingProperty/posts/pfbid02rKLKLaSEE4L61xB5fudVbqXGhDcDyqRnsWR25G8YZKYqSvuVXwyeQ8gwtPwQsdvYl