WeChat ID :
วันก่อนไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อแถวทาวน์อินทาวน์
ตอนกำลังเช็คบิล
คุณ ผจก.ทักว่า
“ร้านอยู่ตรงทางสามแพร่งแต่คนเยอะมากเลยนะ”
ผมเลยบอกไปว่า
“จริงๆทาง 3 แพร่งมันเป็นชัยภูมิที่ดีนะ
คนยังเข้าใจผิดเรื่องนี้อยู่เยอะ”
เลยเป็นที่มาของบทความนี้
.
.
.
ในวัฒนธรรมไทย
เมื่อพูดถึงบ้านที่ตั้งอยู่ตรงทางสามแพร่ง
ภาพจำที่หลายคนมีคือ
“บ้านผีสิง” “ที่ดินอับโชค” หรือ “อยู่แล้วไม่ดี”
ความเชื่อเหล่านี้ถูกส่งต่อมาหลายชั่วอายุคน
.
จนทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อย
ปฏิเสธการอยู่อาศัยหรือการลงทุน
ในทำเลลักษณะนี้
โดยไม่ทันได้มองอีกด้านหนึ่ง
.
ทั้งที่ความจริงแล้ว
“ทางสามแพร่ง”
ไม่ได้มีแต่ข้อเสีย
หากเข้าใจให้ถูกต้อง
มันยังมีข้อดีและ
ความเหมาะสมบางประการ
ที่หลายคนไม่เคยนึกถึง
.
.
1.ความเชื่อที่บิดเบือนมูลค่าจริง
ทางสามแพร่งถูกตีตราว่า
“ผีผ่าน” “ลมพัดแรง” หรือ “พลังร้ายปะทะตรงบ้าน”
ความเชื่อเหล่านี้
ทำให้เจ้าของมักขายที่ในราคาต่ำกว่าตลาด
บางกรณีอาจถูกกดราคาลงไป 15-30%
โดยไม่เกี่ยวข้องกับศักยภาพแท้จริงของทำเลเลย
มันคือ Discount by Belief
ส่วนลดที่เกิดจากความเชื่อ
ไม่ใช่จากปัจจัยเศรษฐกิจจริง
.
2. ข้อได้เปรียบเชิงทำเลที่หลายคนมองข้าม
ธุรกิจที่ตั้งอยู่ตรงทางสามแพร่ง
จะโดนสายตาผู้คนที่ผ่านไปมา
มากกว่าทำเลในซอยลึก
.
ถนนที่บรรจบ3สาย
หมายถึงโอกาสที่จะได้ลูกค้า
จากหลายทิศทางพร้อมกัน
.
รถวิ่งมาได้หลายด้าน
การขนส่งสินค้าเข้าถึงสะดวก
เหมาะกับธุรกิจ SME
และร้านที่ต้องการ “หน้าเด่น”
.
ตัวอย่างชัดเจนคือ
ร้านกาแฟหัวมุมใหญ่ในเมืองหลวง
ที่คนเจอโดยไม่ต้องเสิร์ช Google Maps
ก็ยังขับรถเข้าไปได้
รวมถึง ร้านอาหาร คาเฟ่ คลินิก ร้านขายยา
หรือออฟฟิศ
ที่อยากสร้างภาพลักษณ์ให้ลูกค้าเจอได้ทันที
.
3. ศักยภาพทางการค้าและมูลค่าเชิงธุรกิจ
แม้ความเชื่อทางสามแพร่ง
อาจทำให้ราคาที่ดินถูกกดลง
เมื่อเทียบกับทำเลข้างเคียง
แต่ในเชิงธุรกิจนี่กลับเป็น “โอกาส”
เพราะนักลงทุนสามารถซื้อได้ในต้นทุนต่ำ
แล้วปรับใช้ให้เหมาะสมกับกิจการ
ที่ต้องการทำเลเด่น
เช่น ปั๊มน้ำมัน ร้านสะดวกซื้อ หรือสำนักงานขายโครงการอสังหาฯ
ที่ต้องการหน้าตาเด่น
.
การมองในมุมนี้
คือการใช้ ข้อเสียที่กลายเป็นข้อดีทางเศรษฐกิจ
.
4. มิติทางสถาปัตยกรรมและการออกแบบ
หากเข้าใจเรื่องการออกแบบสถาปัตยกรรม
บ้านตรงทางสามแพร่งสามารถปรับแก้ได้
ไม่ว่าจะเป็นการวางแนวบ้าน
ให้หลีกเลี่ยงการหันประตูตรงกับถนน
การสร้างแนวกั้นด้วยต้นไม้ กำแพง
หรือการวางอาคารเชิงพาณิชย์
ที่ใช้มุมทางสามแพร่งเป็น “จุดขาย”
ตัวอย่างเช่น อาคารหัวมุมสวยๆ
ในกรุงเทพหรือเมืองใหญ่ทั่วโลก
หลายแห่งกลับกลายเป็น Landmark
ที่มีเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรม
.
5. เหมาะกับใครและธุรกิจแบบไหน
ผู้ประกอบการ
คนทำธุรกิจที่ต้องการทำเลเด่น คนเห็นง่าย
เช่น ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ธุรกิจบริการ หรือโชว์รูม
.
นักลงทุนอสังหา
ผู้ที่มองหาทำเลราคาถูกกว่าตลาด
เพื่อรีโนเวทแล้วปล่อยเช่าหรือขายต่อ
.
คนรุ่นใหม่ที่ไม่ติดความเชื่อเดิม
เจ้าของบ้านที่อยากได้ทำเลเดินทางสะดวก คมนาคมดี
และไม่กังวลเรื่องโชคลาง
.
องค์กรหรือธุรกิจที่ต้องการพื้นที่สำนักงาน
ทาง 3 แพร่งช่วยให้พนักงานและลูกค้าเข้าถึงได้ง่าย
.
ดังนั้นความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ “ทางสามแพร่ง”
ทำให้หลายคนมองเพียงด้านลบ
ทั้งที่จริงแล้วข้อดีนั้นชัดเจน
.
หากวิเคราะห์อย่างนักลงทุน
จะเห็นว่าทำเลเช่นนี้
คือโอกาสที่ซ่อนอยู่ในกรอบความเชื่อ
.
เมื่อเราปรับมุมมองและเข้าใจกลยุทธ์การใช้สอย
ก็จะรู้ว่าทางสามแพร่งไม่ใช่ “บ้านผีสิง”
แต่คือ จุดยุทธศาสตร์ของการค้าและการลงทุน
ที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มองเห็นโอกาสก่อนใคร
.
ร่วมพูดคุยกันได้ที่