จากเกรียนสู่ Global: เส้นทางนักสู้ในระบบที่ไม่เอื้อให้โต

จาก “เกรียน” สู่ “Global“
บันทึกของคนไม่เคยยอมแพ้
แหวกหาโอกาสในระบบที่บิดเบี้ยว
ในประเทศที่ไม่เอื้อให้เกิดจนได้เติบโต
.
ผมใช้เวลาเกือบ 2 ปีเต็ม
ในการออกแบบ, สร้าง System Model
จาก presentโง่ๆ 1 เล่ม...
ขยายมาสู่ present 3 ภาษา 6 เล่ม
.
Pitch กับนักลงทุน ทั้งไทยและต่างประเทศ
Pitch จนจำเสียงหัวใจตัวเองได้ว่า
มันเต้นเร็วขึ้นทุกครั้งที่พูดคำว่า
“ถ้าไม่เริ่ม ก็ถูก Disrupt จากทุนต่างชาติ”
และช้าลงทุกครั้งที่นักลงทุนพูดคำว่า
“ไอเดียดีนะ แต่ผมยังไม่กล้าเป็นคนเปิด”
.
แต่ทุกครั้งที่ผมกลับมาจากการ Pitch
ผมไม่ได้กลับมามือเปล่า
ผมกลับมาพร้อมระบบความคิดที่คมขึ้น
แผนการสร้างระบบที่ชัดขึ้น
.
ผม pitch จนผมรู้ว่า
การจะที่จะทำอะไรขึ้นสักอย่าง
มันต้องประกอบไปด้วยอะไร
โดยที่ไม่ต้องเรียน ป.โท ป.เอกให้เสียเวลา
.
Pitch งานกับคนระดับ Elite แบบ 1 on 1 นี่แหละ
คือการเรียนรู้ที่ดีที่สุดของผม
มันทำให้ผมเข้าใจความไม่ยุติธรรม
กับคนใหญ่ที่พยายามกดให้คนตัวเล็กไม่เกิด
และความเข้าใจใน “ระบบทุนที่บิดเบี้ยว”
ในประเทศนี้…มากขึ้นอีกนิด
.
ประเทศไทยยังมีช่องว่างให้เติบโตอีกมาก
แต่ก่อนที่คุณจะพุ่งขึ้นมาได้
ระบบจะคอยบอกคุณเสมอว่า
“มึงเก่งนะ กูยอมรับ แต่ถ้ามึงไม่จ่าย…มึงก็ไม่ต้องเกิด”
.
นี่คือช่วงที่โหดร้ายที่สุด
สำหรับผู้ประกอบการในไทย
มันไม่ใช่ช่วงที่โตแล้วต้องสเกล
แต่มันคือช่วง 0 → 1
ช่วงที่คุณยังไม่มีอะไรเลย
แต่กลับต้องเผชิญกับ
“ถ้าไม่มีเงิน ทุกอย่างพร้อมจะไม่เอาคุณ”
.
ตอนนั้น ผม Pitch ชนะใจนักลงทุนทุกเวที
แต่ไม่มีใครกล้า “Angel” ให้
ผมไม่ได้โกรธพวกเขา…ผมแค่เริ่มรู้
ว่าโมเดลความคิดของผมมัน
“เหมาะกับประเทศไทย”
แต่ “ยังไม่เหมาะกับนักลงทุนไทย”
เท่านั้นเอง
.
ผมเลยเปลี่ยนเกม
ผมเริ่มรับสมัคร “เสี่ยวหยู” แบบเงียบ ๆ
พวกเขาคือคนตัวเล็ก
ที่มีคอนเน็กชั่นใหญ่ระดับโลก
.
พวกเขาทำความเข้าใจ
กับโมเดลระบบของผมแบบจริงจัง
ตั้งใจรับบรีฟ แกะโมเดล ทำความเข้าใจ ซ้อม Pitch
และเดินออกไป “เป็นผม”
ในอีกหลายประเทศ หลายสังคม และหลายชั้นชน
.
จนวันนี้ บริษัทของเรา
เริ่มถูกพูดถึงในเครือข่าย Elite ทั่วโลก
อย่างเงียบ ๆ
.
และคนกลุ่มแรกที่เดินเข้ามาร่วมขบวน
กลับไม่ใช่นักลงทุนไทยที่ผมเฝ้ารอ
แต่คือกลุ่ม Fintech + Propetech
จาก สิงคโปร์, มาเลเซีย และญี่ปุ่น
ที่เข้าใจในระบบของผมทันทีว่า
“ผมไม่ได้มาเล่น ๆ”
.
วันนี้…Matching Property
เป็นบริษัทอสังหาฯไทยเพียง 1 เดียว
ที่มีการเซ็น MOU กับต่างชาติในงาน
คือก้าวแรกที่สำคัญ
มันคือวันที่ทำให้คนที่เคยคุยกับเรารู้ว่า
“สิ่งที่ผมพูดไว้ — มันเกิดขึ้นแล้วจริง ๆ”
.
จากนี้ไป เป้าหมายของเราชัดเจน
การดึงเงินลงทุนจากทั่วโลก
กลับเข้ามาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ไทย
ทุกฟอร์แมต ทุกแนว ทุกตลาด ทุกวิธี
เท่าที่ระบบนี้จะเปิดช่องให้เราแทรกเข้าไปได้
เราจะ “ไม่เล่นตามเกมเดิม” อีกต่อไป
.
อสังหาฯไทยยังไปได้
อสังหาฯไทยยังน่าลงทุน
อสังหาฯไทยยังขาดอะไรอีกหลายอย่าง
ที่จะทำให้มันขับเคลื่อนอย่างที่ควรจะเป็น
.
ขอบคุณพวกนักลงทุนต่างชาติที่มองเห็นโอกาส
ขอบคุณเหล่าเสี่ยวหยูที่เชื่อมั่นในผม
และขอบคุณตัวเอง
ที่ยังเชื่อมั่นในความคิด
และยังสู้ไม่ถอย
จนกว่าจะเห็นผลสำเร็จ
.
Matching Property
ไม่ใช่แค่บริษัทเอเจ้นท์อสังหา
แต่จะเป็นบริษัทไทย
ที่ทำอสังหาริมทรัพย์อย่างครบวงจร
และด้วย Business Model ที่มีทั้งหมด
สามารถ Scale ธุรกิจ
ได้ในระดับ worldwide
.
ลืมภาพความเป็นเอเจ้นท์ไปซะ
นั่นเป็นเพียงปลายยอดเขาที่ผมสวมบทบาท
สิ่งที่อยู่ใต้น้ำแข็งมานาน
กำลังจะขยับออกมาให้เห็น
.
ผมถึงเปิดคอร์สให้กับคนทึ่มีพื้นฐานอยู่แล้ว
เห็นคุณค่าในความรู้ผม
เชื่อว่าผมดึงศักยภาพพวกคุณได้อีก
.
ผมไม่ได้เปิดคอร์สเพื่อเอาเงิน
ผมเปิดคอร์สเพื่อทิ้งมรดกบางอย่างไว้
ก่อนที่ผมจะละ stage นี้ไป
และไปอีกระดับนึงอย่างถาวร
.

ร่วมพูดคุยกันได้ที่

https://www.facebook.com/Ex.MatchingProperty/posts/pfbid027QmDNPHoUATLndwpqCuj1jkCkXxUAAhP7CuVtNN3jvqi1dYETZ7DJMRA1Bd7AiM1l