WeChat ID :
ในโลกของการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์
ความฝันในการมีบ้านหรือคอนโดสักหลัง
มักเริ่มต้นจาก “ใบจอง” และ “เงินดาวน์”
.
แต่น้อยคนนักจะคาดคิดว่า
ความฝันที่ถูกผูกไว้กับโครงการชื่อดังใจกลางเมือง
จะกลับกลายเป็นความคลุมเครือที่ไม่มีคำตอบ
.
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
โครงการคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในย่านพหลโยธิน
กลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์
ผู้บริโภคจำนวนไม่น้อย
เริ่มออกมาเล่าประสบการณ์ที่ฟังดูคล้ายกันอย่างน่าประหลาด
“วางเงินจองไว้แล้ว โครงการหยุดกะทันหัน... และเงียบไปโดยไม่มีคำชี้แจงใด ๆ”
.
แม้โครงการจะเคยถูกคาดหวัง
ให้เป็นหนึ่งในโปรเจกต์ศักยภาพสูง ใกล้รถไฟฟ้า ทำเลดี
แต่วิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด
จากการ “ไม่ผ่าน EIA”
กลับทำให้การพัฒนาต้อง หยุดลงกลางทาง
ป้ายโครงการยังตั้งอยู่
ทว่าภายในกลับไร้การเคลื่อนไหว
ขณะที่คำถามจากผู้บริโภคกลับมีมากขึ้นทุกวัน
.
หลายคนเริ่มตั้งคำถามที่สะท้อนเจ็บลึกว่า
“แล้วเงินดาวน์ของเรา... จะได้คืนหรือไม่?”
“โครงการที่ยุติกลางคันแบบนี้ ผู้บริโภคมีสิทธิอะไรอยู่บ้าง?”
และนั่นคือสิ่งที่เราจะมาเจาะลึกอย่างชัดเจนในบทความนี้
ไม่ใช่แค่เพื่อให้รู้ทางออก แต่เพื่อรู้ทัน...
ก่อนใครต้องตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันอีก
.
.
แนวทางการเรียกเงินคืนและค่าเสียหาย มีดังนี้
1️⃣ ตรวจสอบหลักฐานในมือให้ครบถ้วนก่อน
คุณต้องรวบรวมเอกสารทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน ได้แก่
✅สัญญาจะซื้อจะขาย (สัญญาวางเงินดาวน์หรือจอง)
✅ใบเสร็จรับเงิน / ใบโอนเงิน / Pay-in Slip
✅เอกสารการสื่อสารกับโครงการ เช่น จดหมาย แจ้งเตือน อีเมล หรือแชต
✅ภาพถ่ายโครงการ สื่อโฆษณาที่อ้างอิงว่าจะมีการสร้าง (ถ้ามี)
.
2️⃣ ส่งหนังสือทวงถามอย่างเป็นทางการ
✅ให้ร่างจดหมายทวงถามเป็นลายลักษณ์อักษร ส่งถึงบริษัท (หรือผู้มีอำนาจตามในสัญญา)
✅ส่งเป็น ไปรษณีย์ตอบรับลงทะเบียน หรือผ่านทนายความก็ได้ เพื่อให้มีหลักฐานว่าอีกฝ่ายได้รับ
.
เนื้อหาควรระบุ
-เลขที่สัญญา
-จำนวนเงินที่ชำระไป
-เหตุที่เรียกคืน (เช่น โครงการยุติ / ไม่ดำเนินการตามแผน / ไม่ผ่าน EIA)
-ขอให้คืนเงินภายใน xx วัน หากไม่คืนจะดำเนินการทางกฎหมาย
.
3️⃣ ยื่นคำร้องต่อ สคบ. (สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค)
กรณีที่ผู้ประกอบการไม่คืนเงิน
✅เข้าไปที่ เว็บไซต์ สคบ.
✅แนบหลักฐานทั้งหมด
✅ระบุความเสียหายและจำนวนเงินที่ต้องการเรียกคืน
✅คุณสามารถยื่นด้วยตัวเอง หรือผ่านหน่วยงานทนายความได้เช่นกัน
.
สคบ. มีหน้าที่ไกล่เกลี่ยคุ้มครองผู้บริโภค
และสามารถสั่งปรับ-สั่งคืนเงินได้
หากพบว่าผู้ประกอบการทำผิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค
.
4️⃣ ฟ้องแพ่งเรียกเงินคืน + ค่าเสียหาย (กรณีเจรจาไม่สำเร็จ)
หากคุณมีเอกสารครบ และแน่ชัดว่าโครงการไม่สามารถดำเนินต่อได้จริง และไม่มีความโปร่งใสในการคืนเงิน คุณสามารถ
✅ฟ้องแพ่งเรียกเงินคืน (พร้อมดอกเบี้ย)
✅เพิ่มการเรียกค่าเสียหายอื่น เช่น ค่าทนายความ / ค่าชดเชยการเสียโอกาส / ความเครียด (แล้วแต่กรณี)
✅หากมีการโฆษณาเกินจริง อาจร้องเรียนเพิ่มเติมต่อ กสทช. หรือ สำนักงานโฆษณาโครงการอสังหาฯ ด้วย
.
5️⃣ รวมกลุ่มลูกค้าเพื่อดำเนินการเป็นกลุ่ม
การดำเนินคดีแบบ “ผู้บริโภครวมกลุ่ม” จะทำให้เรื่องมีน้ำหนักมากขึ้น มีแรงกดดันทางสื่อและกฎหมาย เช่น:
✅ตั้งกลุ่ม Facebook หรือ LINE รวมผู้เสียหาย
✅จ้างทนายเป็นตัวแทนแบบ Class action (ถ้าเรื่องใหญ่มาก)
✅ติดต่อสื่อมวลชนหรือนักข่าวสายอสังหาฯ เพื่อเผยแพร่ความเคลื่อนไหว
.
หมายเหตุ
แม้บางบริษัทจะ “คืนเงินช้า”
แต่การเงียบ ไม่ชี้แจง ไม่ตอบ
อาจเข้าข่ายละเมิดสิทธิผู้บริโภค
.
หากโครงการยังไม่เริ่มก่อสร้างเลย
การคืนเงินถือเป็นภาระผูกพันตามสัญญาโดยตรง
.
.
.
ซึ่งถ้าถามต่อว่า
แล้วกว่าจะจบกระบวนการ
ต้องใช้เวลากี่วัน
.
ก็ต้องตอบว่า
คำตอบนี้ขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัยหลัก
สัญญา, ท่าทีของผู้ประกอบการ
และแนวทางการดำเนินการของผู้บริโภคเอง
.
1️⃣ กรณีผู้ประกอบการเต็มใจคืนเงินตามสัญญา
ระยะเวลา: ประมาณ 30 – 45 วัน (หากไม่กำหนดในสัญญาไว้ชัดเจน)
✅โดยทั่วไป บริษัทจะใช้เวลา 15–30 วันทำการในการดำเนินการเอกสารคืนเงิน
✅หากมีเงื่อนไขต้องผ่านการตรวจสอบ เอกสารไม่ครบ หรือมีการหักค่าธรรมเนียม → อาจยืดได้ถึง 60 วัน
❗ข้อควรระวัง
หากไม่มีการกำหนดไว้ในสัญญา บริษัทสามารถยื้อหรือเงียบได้ ถ้าไม่เรียกร้องชัดเจน
.
2️⃣ กรณีบริษัทนิ่งเฉย หรือบ่ายเบี่ยง
ขั้นตอนการดำเนินการ + ระยะเวลาโดยเฉลี่ย
1. ส่งหนังสือทวงถาม (7–14 วัน)
✅ส่งจดหมายลงทะเบียน (มีผลทางกฎหมาย)
✅แจ้งให้ชัดเจนว่า “ขอเงินคืนตามสัญญา ภายใน X วัน”
✅ ใช้เวลาโดยรวมประมาณ 2 สัปดาห์
.
2. ยื่นเรื่อง สคบ. (สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค) (30–90 วัน)
✅ใช้เวลาประมาณ 1–3 เดือนในการไกล่เกลี่ย
✅ถ้าผู้ประกอบการไม่โต้ตอบ → สคบ. อาจสั่งให้คืนเงิน หรือออกหนังสือให้ฟ้องต่อศาลแพ่งได้
.
3. ฟ้องศาลแพ่ง (กรณีต้องใช้บังคับ)
✅ศาลชั้นต้น: 6–12 เดือน (ถ้าไม่อุทธรณ์)
✅ถ้าฟ้องเรียกดอกเบี้ยหรือค่าเสียหายเพิ่มเติมด้วย…อาจยืดออกไปตามปริมาณพยานหลักฐาน
.
.
รวมเวลาโดยประมาณตามสถานการณ์
😍 คืนเงินโดยสมัครใจ >>> 15 – 45 วัน
😊 ส่งจดหมายทวงถาม + ได้รับเงิน >>> ~30 วัน
🙄 สคบ. ดำเนินการสำเร็จ >>> 45 – 90 วัน
😑 ต้องฟ้องศาล >>> 6 เดือน – 1 ปี+
.
.
หากสัญญาไม่มีข้อกำหนดเรื่อง
“ไม่ผ่าน EIA แล้วคืนเงิน”
ผู้ซื้อมีสิทธิตามกฎหมายแพ่งฯ
ในฐานะที่เป็น “ความจำเป็นทำให้สัญญาเป็นโมฆียะ”
.
ผู้ซื้อสามารถเรียกร้องดอกเบี้ยจากวันที่ชำระเงินได้
ตามอัตราดอกเบี้ยตามกฎหมาย
(ปัจจุบัน 5%/ปี สำหรับหนี้ทั่วไป)
.
ร่วมพูดคุยกันได้ที่
https://www.facebook.com/Ex.MatchingProperty/posts/pfbid0xaEssGKUdfevXRyZCVTgCLDdSdVkp7n4LMkC5W2X4pFiRGG6h4zqqhnAxpbQVb3el