นิทานอสังหา EP.6 : เสือใส่สูท — เมื่อธุรกิจไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยความจริงใจ

เรื่องจริงของนายหน้ามืออาชีพ ที่เสียดีลพันล้านเพราะ “เชื่อคำพูดมากกว่าสัญญา”

post date  โพสต์เมื่อ 18 พ.ย. 2568   view 265844
article

นิทานอสังหา EP.6 : เสือใส่สูท
เมื่อธุรกิจไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยความจริงใจ
.
.
.
“ภพ” ชายหนุ่มที่ทำนายหน้าอสังหาฯมานาน
เขาไม่ได้เป็นมือใหม่
เขาคือคนที่กำลังไปได้ดี
ในวงการนายหน้า
.
ภพเริ่มต้นจากการขายบ้านจัดสรร
บ้านเดี่ยวมือสอง ทาวน์โฮมราคาเบาๆ
บ้านที่เจ้าของเป็นคุณลุงคุณป้า
คนธรรมดาแบบเราๆ
.
ดีลที่ไม่หวือหวา
ไม่มีเลข 9 หลัก
ไม่มีคำว่า “Landbank”
แต่ทุกหลังคือ
ดีลที่เต็มไปด้วย “ความจริงใจ”
.
เขาใช้เวลาเป็นปี
ค่อยๆ ปิดดีลแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ลูกค้ารู้จักเขา ลูกค้าแนะนำเพื่อน
เจ้าของบ้านวางใจ บอกต่อไปยังญาติพี่น้อง
ภพสร้างชื่อแบบเงียบๆ แต่มั่นคง
.
จนกระทั่งวันหนึ่ง
โอกาสที่เขาไม่คาดฝัน
ก็ปรากฏขึ้นในรูปแบบของเสียงโทรศัพท์
เบอร์ที่ไม่คุ้น
แต่ปลายสายพูดมาชัดถ้อยชัดคำว่า
“ผมมีที่ดินริมแม่น้ำ 120 ไร่ อยากให้คุณภพช่วยดูให้หน่อย”
.
สิ่งที่ทำให้ภพรู้ว่านี่คือ “โอกาสทอง”
ไม่ใช่แค่ขนาดของที่ดิน
ไม่ใช่แค่ที่ตั้งที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตพัฒนาใหม่
แต่เพราะเจ้าของที่
คืออดีตนักการเมืองใหญ่ระดับประเทศ
ชื่อเสียงระดับที่ไม่ต้อง Search กูก็รู้ว่า “ของจริง”
.
ภพได้เข้าพบกับเจ้าของที่ดินแปลงนี้แบบตัวเป็นๆ
ในระหว่างพูดคุย ใจภพเต้นแรง
แต่ยังรักษาความนิ่งในน้ำเสียง
“ยินดีครับพี่ ผมจัดให้เต็มที่เลย”
เจ้าของที่ดินยิ้มและพูดว่า
“แปลงนี้ ผมให้คุณภพดูแลคนเดียวเลยนะ พอดีมีเพื่อนแนะนำคุณมา”
.
ดีลนี้ ภพทำการบ้านอย่างจริงจัง
ไม่รีบพาผู้ซื้อเข้า
เขาเริ่มจากการจัดการข้อมูลอย่างมืออาชีพ
สำรวจแนวถนน สาธารณูปโภค น้ำท่วม-ไม่ท่วม
ประวัติเจ้าของ การครอบครอง โฉนด การแบ่งแปลง
จนได้เอกสารครบชุด
ที่พอจะยื่นเข้าห้องบอร์ดได้โดยไม่อายใคร
.
เขาทำ Presentation ภาษาไทยและอังกฤษ
สร้างวิดีโอโดรนบินเหนือแปลง
ที่ใช้เสียงบรรยายจากนักพากย์มืออาชีพ
ใส่เพลงบรรเลงเบาๆ พร้อมตัวเลขด้านการลงทุน
ทั้งหมดนี้ ด้วยเงินในกระเป๋าของเขาเอง
.
เพราะเจ้าของบอกว่า
“ถ้าปิดได้ ให้ 3% ทันที ไม่ต่อ”
3% ของราคาขายกว่า 1,500 ล้านบาท...
เขาคิดในใจ “ชีวิตเปลี่ยนแน่”
.
ภพใช้เวลา 7 เดือนเต็ม ในการเฟ้นหาผู้ซื้อ
เขาคัดเฉพาะรายที่มีศักยภาพ
เขาไม่กลัวที่จะบอกปัดนักปั่นราคา
นักลงทุนหน้าใหม่ และนายหน้าสายเทา
เขาอยากให้ดีลนี้ “บริสุทธิ์”
เพราะมันคืองานใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา
.
และในที่สุด...เขาก็หาคนที่ใช่เจอ
เป็น Developer ชื่อดังจากต่างประเทศ
ที่มีบริษัทร่วมทุนกับไทย
เข้าร่วมชมทรัพย์
และให้ความสนใจอย่างจริงจัง
.
ภพอยู่ในทุกขั้นตอน
ตั้งแต่วันดูหน้างาน จนถึงวันที่มีการเจรจา
เขาช่วยแปล ช่วยอธิบาย ช่วยปรับข้อเสนอ
เขานั่งอยู่ในห้องประชุมร่วมกับนักกฎหมาย นักการเงิน
ทำหน้าที่เกินกว่าคำว่า "นายหน้า" ไปมาก
บางครั้งถึงขั้นรู้สึกเหมือนเป็น “ที่ปรึกษาเฉพาะทาง” ไปแล้ว
.
แล้ววันหนึ่ง
ทุกอย่างก็ลงตัว
ราคาตกลงกันได้ 1,420 ล้านบาท
เจ้าของพอใจ ผู้ซื้อก็พร้อมจ่าย
นัดวันโอนที่กรมที่ดินเรียบร้อย
เตรียมการโอนผ่านแบงก์
พร้อมเอกสารการหักภาษีและค่าธรรมเนียมครบ
.
ภพดีใจมาก
เขายืนอยู่ในวันนั้น
เหมือนเป็นคนในครอบครัว
เจ้าของหันมาหาเขาแล้วพูดว่า
“ขอบใจนะภพ ถ้าไม่มีน้อง ก็คงไม่จบง่ายแบบนี้”
เขากลั้นน้ำตาแห่งความปลื้มปิติไว้ในใจ
.
แต่แล้ว
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป — ไม่มีค่าคอม
สองสัปดาห์ผ่านไป — ยังเงียบ
ภพเริ่มทวง...อย่างสุภาพ
ได้รับคำตอบว่า “เดี๋ยวพี่เคลียร์บัญชีแป๊บนะ มันเยอะ”
.
หนึ่งเดือนผ่านไป
ภพเริ่มรู้สึกว่า บางอย่างผิดปกติ
เขาติดต่อเลขาฯ
ก็ได้รับคำตอบว่า
“ตอนนี้เจ้านายติดประชุมหลายเรื่อง ยังไม่ได้เซ็นอนุมัติ”
.
ภพเริ่มโทรหาเจ้าของโดยตรง — ปลายสายไม่รับ
จนต้องแอบถามผู้ซื้อ ว่า “ทางนู้นได้เคลียร์กันหรือยังครับ”
ผู้ซื้อกลับตอบมาสั้นๆ ว่า
“เราไม่ทราบเรื่องคุณภพเลยครับ เราดีลกับตัวแทนของเจ้าของโดยตรงทั้งหมด”
.
หัวใจภพ...ตกไปอยู่ที่พื้น
เขาเพิ่งเข้าใจว่า
ในวันที่โอนทรัพย์ เขาไม่ได้อยู่ใน “สัญญาใดๆ”
ไม่มีชื่อเขาใน MOU
ไม่มีค่าคอมมิชชั่นที่เขียนชัดเจน
มีเพียง “คำพูด”
คำพูดที่อบอุ่น
ความตั้งใจและความจริงใจของภพ
ไม่มีค่าในสนามของเสือสิงห์กระทิงแรด
.
มือเท้าและหัวของภพชาไปหมด
หูมีแต่เสียงวิ้งที่ทำให้ไม่ได้ยินเสียงรอบข้าง
ความรู้สึกที่มันเจ็บไปถึงข้างใน
จุกอกไปหมดแต่มันร้องไม่ออก
.
เขากลับมานั่งเงียบในคอนโดเล็กๆ ของตัวเอง
นั่งดูใบเสนอราคา บัญชีรายจ่ายการทำสื่อ
ที่เขาออกเองทุกบาท
ดูเวลาที่ใช้ไปกับการเดินทาง ประชุม ซัพพอร์ต
ดูข้อความแชตที่เคยคุยกับเจ้าของอย่างไว้ใจ
แล้วสุดท้าย…เขานั่งก้มหน้า พร้อมกับความจริงว่า
“สุดท้ายแล้วเขาไม่ได้ได้เงินเลย — แม้แต่บาทเดียว”
.
เขาอยากจะร้องไห้
ไม่ใช่แค่เพราะเสียเงิน
แต่เพราะรู้สึกว่าเขา “ถูกหักหลัง”
โดยคนที่เขาเคารพ
.
และที่เจ็บที่สุด
คือรู้ว่า...เขาทำทุกอย่างดีที่สุดแล้ว
แต่กลับได้รับสิ่งตอบแทน
เป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต
.
ภพได้ติดต่อปรึกษาทนาย
แต่ทนายได้ให้คำปรึกษาว่า
สู้ได้นะภพแต่ใช้เวลา
และเสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
แถมทางนั้นไม่ใช่คนธรรมดา
เกรงว่าภพจะเสียเวลา
ซึ่งภพก็รู้สึกแบบนั้นเช่นกัน
.
เขากลับไปนั่งมองบ้านหลังเล็ก
ที่เขาเพิ่งขายได้เมื่อเดือนก่อน
บ้านที่เจ้าของโอนเสร็จ
แล้วหยิบซองใส่มือเขา บอกว่า
“น้องช่วยพี่เยอะมาก นี่เป็นน้ำใจจากใจจริง”
เขายิ้ม — และน้ำตาก็ไหลเงียบๆ
.
ภพยังไม่เลิกเป็นนายหน้า
แต่เขาไม่เชื่อคำพูดใครอีก
เขาเรียนรู้ว่า ถ้าจะเดินในสนามนี้
เอกสารสัญญา ต้องมี
ข้อตกลง ต้องชัดเจน
และทุกสิ่งที่ทำไปต้อง “คุ้มในตัวเอง”
โดยไม่ต้องรอให้ใครให้ค่า
.
วันนี้เขากลับไปขายบ้าน
ราคา 3 ล้าน 5 ล้านเหมือนเดิม
แต่เขาทำมันด้วยความเข้าใจใหม่
.
ว่าความใหญ่ของดีล
ไม่ได้แปลว่าเราทำไม่ได้
คนที่มีชื่อเสียงหรือคนมีฐานะทางสังคม
ไม่ได้การันตีความซื่อสัตย์ของคน
.
และความสำเร็จในอาชีพนี้...ไม่ได้อยู่ที่ดีลที่ใหญ่
แต่อยู่ที่ดีลที่ “จบอย่างยุติธรรมและมีจริยธรรม”
.
นายหน้าที่เค้าว่าจับเสือมือเปล่า
จริงๆแล้วไม่ใช่เสือ 4 ขา
ไม่ใช่สัตว์ที่ดุร้ายที่อาศัยอยู่ในป่า
แต่มันคือสัตว์ที่เดิน 2 ขา
สวมสูท...และพูดจานุ่มนวล.
ที่อยู่ในเมืองต่างหาก

.

ร่วมพูดคุยกันได้ที่

https://www.facebook.com/Ex.MatchingProperty/posts/pfbid02ZgMSsobd9vmjjhfy5N6RmpQNft3WpniQkk4BMLjqGBMnPzais77fYH6sJbTL5uVgl

บทความที่เกี่ยวข้อง (3)