ขายบ้านยุคนี้ทำไมเงียบ คนซื้อหาย แต่ยังมีทางรอด

เจาะกลยุทธ์ขายบ้านในเศรษฐกิจฝืด ตั้งราคา เล่าเรื่อง ปิดการขายจริง

post date  โพสต์เมื่อ 18 พ.ย. 2568   view 244653
article

ทุกวันนี้ เราอาจเห็นคนพูดกันว่า
“จะขายบ้าน ขายคอนโด ขายที่ดินตอนนี้…
ยากจะตาย ใครจะมีกำลังซื้อ?”
.
ช่วงนี้ผมเชื่อว่าหลายคนที่ถืออสังหาอยู่
คงรู้สึกเหมือนกันว่า
โพสต์ขายไปแล้วเงียบ
โทรมาน้อย
นัดดูยิ่งน้อยกว่า
สุดท้ายต้องกลับมานั่งคิดว่า
จะกอดไว้ต่อ หรือจะยอมลด?
.
ใช่ครับ…
คนส่วนใหญ่ไม่ได้มีเงินก้อน
เหลือเฟือแบบเมื่อก่อน
บางคนผ่อนบ้านตัวเองยังเหนื่อยเลย
แล้วใครจะมาซื้อบ้านหลังใหม่?
.
แต่ในวันที่ตลาดดูเหมือนนิ่ง ๆ แบบนี้
ผมอยากให้ลองคิดใหม่
เพราะ “คนที่ฝันอยากมีบ้าน” ยังมีอยู่จริง
แค่เขารอความมั่นใจ
และรอสินทรัพย์ที่เขารู้สึกว่า ใช่ เท่านั้น
.
ถ้าเราอยากขายได้ในวันที่เศรษฐกิจฝืด
เราต้องกลับไปตอบคำถามง่าย ๆ
เราขายบ้าน
หรือเราขาย “ความฝัน”?
.
มันต้องเริ่มจากความจริง
ไม่ใช่ความหวัง
หลายคนตั้งราคา
เหมือนกับเมื่อ 3-4 ปีก่อน
.
ราคาสูงหวังให้ต่อรองได้เยอะ
สุดท้ายไม่มีคนดู
ไม่มีคนโทรมา
แล้วก็เครียดเอง
.
วันนี้ ถ้าเราตั้งราคาจริงใจ
แบบที่คนเห็นแล้วรู้สึกว่า"คุ้มค่า"
อาจจะสร้างแรงดึงดูดได้มากกว่า
.
เพราะการจะขายบ้าน
ในวันที่เศรษฐกิจฝืด
คนไม่มีเงินใช้
มันจะไปต่อยังไง?
.
แต่ก่อนจะตัดสินใจลดจนเจ็บใจ
ลองค่อยๆ ถามตัวเอง 3 ข้อสั้นๆ
.
✅บ้านหรือคอนโดเราตั้งใจจะขายจริงหรือยัง?
✅ราคาที่ตั้ง มันเรียกว่าราคา "ขายได้" หรือ "ฝันกลางวัน"?
✅วิธีขาย เราใช้แบบที่ตลาดต้องการจริงไหม?
มาจี้กันทีละจุด
.
.
.
1️⃣ ราคาที่ตั้ง = สัญญาณแรกที่บอกว่าขายได้หรือไม่ได้🏷️
หลายคนยึดติดกับราคาประเมินแบงก์
หรือราคาที่เคยขายได้เมื่อ 3-5 ปีก่อน
แต่ลืมไปว่าตอนนี้ดอกเบี้ยขึ้น
หนี้ครัวเรือนหนัก
และคนกลัวภาระระยะยาว
.
เทคนิคที่ผมใช้กับลูกค้าที่ขายได้จริง
✅เปิดดูราคาปิดการขายล่าสุดในโครงการเดียวกัน
หรือคอนโดตึกเดียวกัน
#ไม่ใช่ราคาประกาศ
#แต่ราคาที่โอนจริง
.
✅เช็กยอดกู้ผ่านแบงก์
คนส่วนใหญ่กู้เต็ม 90–95%
#ถ้าตั้งสูงเกินกู้ไม่ผ่าน
เกมจบตั้งแต่เริ่ม
.
✅ถามเอเจ้นท์หรือคนนอกมาประเมินซ้ำ
จะช่วยตัดอคติ
"ความรักบ้านตัวเอง" ออกไป
.
.
2️⃣บ้านที่พร้อมขายจริง ไม่ใช่บ้านที่อยู่จริง🧹
บ้านที่อยู่จริง
มักเต็มไปด้วยของสะสม ของใช้
ความทรงจำ ทุกมุมแน่นไปหมด
แต่คนซื้ออยากเห็น
"บ้านโล่งที่เขาสามารถใส่ชีวิตของเขาเองเข้าไป"
.
เทคนิคที่ผมแนะนำให้ลูกค้า
✅เก็บของส่วนตัว 70%
เช่น รูปครอบครัว ของที่ตั้งโชว์ ตุ๊กตา ของเล่น
.
✅ทำความสะอาดลึก (Deep Cleaning)
ทั้งเพดาน, ผนัง, ห้องน้ำ
เพราะบ้านเก่า
มักจะมีกลิ่นเฉพาะที่เจ้าของไม่รู้ตัว
.
✅เปลี่ยนไฟเหลืองให้เป็นไฟขาว
หรือไฟ Warm White
เพื่อให้บ้านดูสว่างกว้างขึ้น 20–30%
แบบไม่ต้องทุบหรือรื้อบ้านใหม่
.
.
3️⃣ วิธีเล่าเรื่องให้บ้านมีชีวิต ไม่ใช่แค่ตัวเลข 🪄
ประกาศขายทั่วไป
จะบอกแค่ที่ดินกี่ตารางวา
พื้นที่ใช้สอยกี่ตารางเมตร
ขนาด ห้องนอน ห้องน้ำ
ราคา จุดเด่นทำเล
#แต่ยุคนี้คนซื้ออารมณ์นำมากกว่าเหตุผล
.
สิ่งที่ผมช่วยเขียนให้ลูกค้าปิดการขายเร็วขึ้น
✅เล่ามุมสวนตอนเย็นที่ลมพัด เขาจะเห็นภาพครอบครัวล้อมวงกันกินหมูกระทะ
✅เล่าห้องนั่งเล่นที่แสงเช้าเข้าพอดี เขาจะจินตนาการทำงานที่บ้านหรือจิบกาแฟ
✅เล่าห้องครัวที่เคยจัดปาร์ตี้กับเพื่อน ทำให้บ้านมี "อารมณ์" ไม่ใช่แค่สเปก
✅เล่าเรื่องราวที่มาของเฟอร์นิเจอร์และของประดับที่อยู่ภายในบ้าน
.
.
4️⃣ ยืดหยุ่นให้มากกว่าการลดราคา 🤝
ลดราคาอย่างเดียวอาจไม่ใช่ทางออกเดียว
เพราะบางครั้งการช่วยผ่อนค่าโอน
ออกค่าใช้จ่ายบางส่วน
การใช้วิธีเช่าซื้อ
หรือยอมให้ระยะโอนนานขึ้น
กลับช่วยให้ดีลจบง่ายกว่า
.
กลยุทธ์ที่ผมเคยใช้จริง
✅ผู้ซื้อกู้ไม่เต็ม ช่วยจ่ายส่วนต่างที่ขาด (บางเคสจ่าย 1–2 แสน แต่จบเร็ว)
✅การให้เช่าอยู่ก่อน โดยระหว่างนั้นให้ผู้ซื้อทำเรื่องขอสินเชื่อไปด้วย
✅เจรจาช่วยออกค่าโอนให้ทั้งหมด จากที่เคยออกให้ครึ่งนึง ทำให้ฝั่งผู้ซื้อตัดสินใจง่ายขึ้น
.
.
5️⃣ การตลาดวันนี้ต้องละเอียดกว่าแค่รูปสวย 🎥
คนดูรูปครั้งแรกภายใน 1.5 วินาที
ถ้าไม่สะดุด
เขาจะเลื่อนผ่านทันที
.
สิ่งที่ต้องทำ
✅ภาพมุมกว้าง (Wide Shot) ทุกห้อง ไม่เอาแค่ภาพแคบๆ
✅ถ่ายด้วยมือถือก็ได้ แต่ต้องจัดแสง จัดเฟรมให้มืออาชีพ
✅ทำวิดีโอ 1 นาที เล่าเรื่องครบ ทั้งบรรยากาศ รอบบ้าน การเดินทาง จุดขาย
.
.
6️⃣ เปิดบ้านจริง vs เปิดบ้านเสมือนจริง 🚪
ลูกค้าบางคนไม่กล้าเดินทางไปดูสักที
เพราะกลัวเซลล์ผูกมัด
.
ถ้าเราทำ Virtual Tour
ผ่าน vdo call
ช่วยให้เขาเดินดูได้ 360 องศา
จะช่วยลดความลังเล
.
หรือถ้าพร้อมจัด Open House
ควรเตรียมบ้านให้เหมือนโรงแรม
หอม, สะอาด, โล่ง
การเปิดเพลงสไตล์เบาๆ
อย่าง Bossa Nova, Chill Out, Pop, R&B ช้าๆ
เตรียมเอกสารข้อมูลบ้าน
ทำเป็นโฟลเดอร์แจก
ช่วยให้คนจำบ้าน
ได้หลังจากไปดูหลายที่
.
.
7️⃣ ต้องทำให้คนซื้อกู้ผ่าน 💰
กว่า 70% ของผู้ซื้อยังต้องกู้
ถ้าไม่ช่วยเตรียมเอกสาร
แนะนำแบงก์
หรือบอกเส้นทางกู้
โอกาสครึ่งหนึ่งจะหลุดลอยไป
.
สิ่งที่ผมเคยทำให้ลูกค้า
✅️ ช่วยทำ Pre-Approve ก่อนปล่อยดูบ้าน
✅️ แนะนำผู้เชี่ยวชาญสินเชื่อ
✅️ เตรียมสรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมด
✅️ ลดความกลัวเรื่องค่าใช้จ่ายแฝง
.
.
8️⃣ ใช้เอเจ้นท์ = ลดเวลา ลดดราม่า 💼
เอเจ้นท์มืออาชีพไม่ได้แค่โพสต์ขาย
แต่ช่วยคัดคนดูได้จริง
เจรจาแทนเจ้าของ
ดึงเครือข่ายผู้ซื้อที่พร้อมโอน
อาจจะมีค่าคอมมิชชั่นที่เพิ่มเข้ามา
แต่คุ้มค่ากับเวลาที่ลดลง
และความเครียดที่หายไป
.
.
9️⃣ เพิ่ม “เสน่ห์พิเศษ” ให้บ้าน 🌳
ถ้าอยากชนะคู่แข่ง
ลองทำมุมพิเศษ เช่น
✅️สวนเล็ก ๆ หลังบ้าน
✅️มุมทำงานพร้อมวิว
✅️มุมคาเฟ่ในบ้าน
การลงทุนหลักหมื่น
แต่สร้างความแตกต่างมหาศาล
.
.
🔟 อดทนและพร้อมปรับเกมเสมอ 💪
บ้านบางหลังขายใน 7 วัน
บางหลังขายใน 7 เดือน
ความต่างคือ
เจ้าของยอมปรับกลยุทธ์เร็วแค่ไหน
ปรับราคา จัดบ้านใหม่
เปลี่ยนวิธีโปรโมท
ทุกอย่างต้องทำเร็วและจริงใจ
.
.
ดังนั้นการขายบ้านสมัยนี้
ต้องมี mindset เริ่มต้นว่า
.
ในวันที่คนไม่มีเงินใช้
การขายได้ไม่ใช่แค่เรื่อง "ลดราคา"
แต่คือ "การเพิ่มคุณค่า" และ
"สร้างประสบการณ์ให้ผู้ซื้อเห็นอนาคตของเขาในบ้านเรา" รวมถึง
“บ้านไม่ได้ขายเพราะเราอยากขาย แต่ขายเพราะมีคนอยากซื้อ”
ถ้าเราเข้าใจสิ่งนี้ เกมจะง่ายขึ้นเยอะ
.
ร่วมพูดคุยกันได้ที่

https://www.facebook.com/Ex.MatchingProperty/posts/pfbid0NnFDEkT9Ltrz5iRPmJiUCSVAQfbKomQpxG9Cf47QznJxBiJ5YRPZosJ61XBWmz2Ul

บทความที่เกี่ยวข้อง (3)