โครงการเร่งให้โอน ทั้งที่บ้านยังไม่เสร็จ เราทำอะไรได้บ้าง?

หนึ่งในเรื่องที่เจอบ่อยมาก
ในกลุ่มคนที่ซื้อบ้าน
หรือคอนโดจากโครงการใหม่คือ…
"โครงการเร่งให้โอน"
.
ไม่ว่าจะใช้คำพูดแนว
“ถ้าโอนวันนี้ จะได้ของแถมเพิ่มนะครับ”
“ต้องรีบโอนก่อนสิ้นเดือน ไม่งั้นโปรโมชั่นหมด”
หรือ
“ยังไม่ต้องห่วงเรื่องเก็บงาน เดี๋ยวทีมเราจะทยอยตามเก็บให้ทีหลังครับ”
.
พูดจานุ่มนวล ใช้คำหว่านล้อม
และบางคนก็อยู่ในสถานการณ์ที่จำเป็นต้องรีบเข้าอยู่
รีบยื่นสินเชื่อ
หรือกลัวโปรที่เสนอมาหลุด
.
สุดท้ายก็ยอมโอนก่อน
แม้จะรู้ว่ารายการ Defect ยังไม่เสร็จ
.
ช่วงแรก
โครงการก็เหมือนจะใส่ใจ
มีทีมช่างเข้ามาดูบ้าง
ซ่อมบางจุด
แต่พอผ่านไปสัก 2-3 สัปดาห์...
โครงการเงียบ
แจ้งแล้วก็ยังเงียบ
.
ตามไปที่สำนักงานขาย
ก็มีการเปลี่ยนทีม
โทรหาช่างที่เคยติดต่อ
ก็ไม่รับสาย
.
สุดท้ายเราก็อยู่ในบ้านที่ยังมีปัญหาเดิม ๆ
โดยไม่มีใครรับผิดชอบอย่างจริงจัง
แล้วแบบนี้เราทำอะไรได้บ้าง?
.
.
.
ก่อนอื่น
ต้องย้อนดูว่า
ตอนโอนเรามีอะไรในมือบ้าง
สิ่งที่คนส่วนใหญ่พลาด คือ
“ไม่ขอให้โครงการเซ็นรับ defect list เป็นลายลักษณ์อักษร”
.
หลายคนตรวจบ้าน เจอ 30 จุด
แต่เขียนไว้แค่ในแชท
หรือบอกปากเปล่า
.
พอโอนไปแล้ว
โครงการก็บอกว่า “ไม่ได้รับแจ้งครับ”
หรือ “ตอนโอนไม่มีอะไรค้างนะครับ”
แบบนี้เราเสียเปรียบเต็ม ๆ
.
แต่ถ้าคุณมีสิ่งเหล่านี้
✅รายการ defect เป็นไฟล์
หรือลายเซ็น (แม้จะเซ็นแค่เจ้าหน้าที่ระดับล่าง)
✅รูปถ่ายประกอบแต่ละจุดก่อนโอน
✅แชทหรืออีเมลที่โครงการ
ตอบรับว่าจะตามเก็บงาน
คุณยังมีสิทธิ์เต็ม ๆ
ที่จะเรียกร้องให้แก้ไข
ถึงแม้ว่าโอนไปแล้ว
.
สิทธิของคนซื้อที่กฎหมายให้การคุ้มครอง
ตามกฎหมายแพ่งฯ
มาตรา 472–474
.
ผู้ขายมีหน้าที่รับผิด
ในความชำรุดบกพร่องของสิ่งของที่ขาย
แม้ผู้ซื้อจะตรวจรับไปแล้วก็ตาม
.
ยิ่งในกรณีที่ปัญหานั้น
ไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่าในขณะรับโอน
โครงการต้องรับผิดเต็ม ๆ
.
หรือถ้ามีรายการ defect
แล้วคุณแจ้งไว้ก่อนโอน
โครงการยิ่งไม่มีทางปฏิเสธ
.
คุณสามารถ:
เรียกร้องให้ซ่อมตามรายการ
หากไม่ซ่อม
คุณสามารถซ่อมเอง
แล้วเรียกค่าใช้จ่ายคืน
.
รวมทั้งดอกเบี้ยจากค่าใช้จ่าย
และค่าชดเชยอื่น ๆ ได้
.
กรณีมีความเสียหายร้ายแรง เช่น
ระบบน้ำรั่วจนเฟอร์นิเจอร์เสียหาย
หรือฝ้าเพดานหล่นใส่คน
ก็สามารถเรียกร้องค่าเสียหายเพิ่มเติมได้ด้วย
.
คำถามต่อมาคือ
แล้วถ้าเราซ่อมเองไปแล้ว
จะทำอย่างไร?
ถ้าโครงการเงียบไปเลย
.
เราต้องซ่อมเองเพื่อใช้งานได้
ทำได้ครับ
แต่ต้องเก็บหลักฐานไว้ให้ครบ
.
เช่น
✅รูป defect ก่อนซ่อม
✅ใบเสนอราคาจากช่าง
✅รูประหว่างซ่อม
✅ใบเสร็จตัวจริงจากช่าง
✅แชทที่คุณแจ้งโครงการไว้แต่ไม่ได้รับการตอบรับ
.
หลังจากซ่อมแล้ว
คุณสามารถทำหนังสือเรียกร้องค่าเสียหาย
ส่งให้โครงการ
.
ถ้าไม่ตอบหรือปฏิเสธ
เตรียมฟ้อง หรือร้องเรียนต่อ สคบ.
.
ซึ่งช่องทางที่ใช้เรียกร้องได้จริง
1.ร้องเรียนต่อ สคบ. (สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค)
ไม่เสียค่าใช้จ่าย
ใช้เวลา 2–3 เดือนโดยเฉลี่ย
ทาง สคบ. จะเรียกโครงการมาชี้แจง
หากโครงการผิดจริง
จะมีคำสั่งให้ซ่อมหรือชดเชย
.
2.ฟ้องศาลแพ่ง (กรณีที่ค่าเสียหายสูง หรือไม่ต้องการรอ)
โดยเฉพาะถ้าคุณมีความเสียหายหลักหมื่น–แสนบาท
คุณสามารถฟ้องเรียกได้ทั้งหมด
รวมดอกเบี้ยและค่าเสียเวลาทางอ้อม
.
ถ้ายังไม่โอน…
ทำแบบนี้ก่อนดีที่สุด
✅ทำ Defect List พร้อมถ่ายรูปประกอบ
✅ขอให้ เซลล์หรือโครงการเซ็นชื่อรับ defect list
ถ้าไม่เซ็น ให้ส่งทางอีเมล แล้วเก็บหลักฐานไว้
✅ระบุในใบโอนว่า “มีรายการ defect ค้างอยู่”
และ คุณยังสงวนสิทธิ์ในการเรียกร้อง
.
ถ้าโครงการไม่ยอมเขียน
คุณควรเขียนเพิ่มเอง
แล้วเซ็นไว้ทุกหน้า
.
หลักฐานนี้
จะกลายเป็นโล่กันลูกปัดในภายหลัง
และช่วยให้คุณฟ้องหรือร้องเรียนได้ง่ายขึ้นมาก
.
ร่วมพูดคุยกันได้ที่
https://www.facebook.com/Ex.MatchingProperty/posts/pfbid033D3EHJ8xt4Scv6aoEbsuwF7eDJH8HPhgGFViq7c4aTkorjgkENqtsqnrKXwNTwzyl