WeChat ID :
อสังหาฯ ไทย
ในวันที่ไม่มีกำลังซื้อจากต่างชาติ
ไม่มีมาตรการจากรัฐ
และไม่มีที่ยืนสำหรับเอเจ้นท์
.
ช่วงนี้ใครอยู่ในวงการอสังหาฯ
คงรู้สึกเหมือนกันหมด
เหมือนนั่งดูละครการเมืองภาคต่อ
บทเดิม ฉากเดิม นักแสดงหน้าเดิม
เปลี่ยนแค่เสื้อผ้า
แต่เนื้อเรื่องยังวนกลับมา
ไม่ต่างอะไรกับละครจักร ๆ วงศ์ ๆ
ที่เปิดทีไรก็เจอ “นางยักษ์” ร้องไห้ทุกตอน
.
ยิ่งช่วงนี้
ไม่มีแรงหนุนจากต่างชาติ
ไม่มีนโยบายกระตุ้นจากรัฐบาล
มาช่วย “อุ้ม” ตลาด
เหมือนหลายปีที่ผ่านมา
.
ภาพรวมตลาด
ก็เลยเหมือนคนป่วย
ที่ยังไม่ได้หยดน้ำเกลือ
จะลุกก็ลุกไม่ขึ้น
จะนอนก็ไม่เต็มตื่น
.
เมื่อก่อนยังมีคนจีน
มาเหมาห้องยกโหล
จองคอนโดยก Floor
กวาดบ้านเดี่ยวริมแม่น้ำ
แบบไม่ต้องต่อราคา
.
พอไม่มีพวกเขา
ตลาดก็ต้องหันกลับมามอง
“กำลังซื้อที่แท้จริงในประเทศ”
ซึ่งก็อย่างที่เห็น
.
ค่าแรงเท่าเดิม
หนี้สินสูงขึ้น
ราคาของกินของใช้
วิ่งแข่งกับอุณหภูมิประเทศไทย
คนจะเอาเงินที่ไหนไปดาวน์บ้าน?
พอมีเงินดาวน์บ้าน
แบงค์ก็ไม่อนุมัติสินเชื่ออีก
.
ไม่ต้องพูดถึงคอนโดหรู
ริมถนนสุขุมวิท พระราม 9 ทองหล่อ
ที่ตั้งราคากัน
เหมือนจะขายให้เศรษฐีดูไบ
.
ทั้งๆที่ตอนนี้
คนไทยยังต้องก้มหน้าผ่อนมือถือ
ผ่อนมอเตอร์ไซค์
บางคนผ่อนค่าเทอมลูกยังไม่จบ
จะกินบุฟเฟต์ยังต้องเข้าระบบผ่อน
คำถามคือ
จะเหลือเงินไปเก็บซื้อบ้านได้ยังไง?
.
นี่คือบทเรียนที่วงการอสังหาฯ
ควรเรียนรู้จากอดีต
ที่เคยหวังพึ่งกระแสภายนอก
.
พอไม่มีต่างชาติ
มาช่วยดูดซับ (absorb) การหมุนเวียน
ก็เหมือนเศรษฐกิจบ้านเรา
เวลาขาดนักท่องเที่ยว
เงียบสงัด เห็นร้านกาแฟ fancy
ปิดไปทีละร้าน
เหมือนใบไม้ร่วงตอนหน้าแล้ง
.
ตอนนี้หลายบริษัทพัฒนาอสังหาฯ
เริ่มปรับแผน
ลดขนาดโครงการ
เน้น real demand
.
จริง ๆ บางเจ้า
หันมาจับกลุ่มบ้านระดับกลาง
ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท
เพราะยังพอมีคนเอื้อมถึง
แถมยังได้สิทธิประโยชน์จากแบงก์บ้าง
.
แต่ใช่ว่าจะง่าย
เพราะรัฐไม่ได้ออกมาตรการ
กระตุ้นเหมือนยุคก่อน
.
มีนโยบายก็แก้ไม่ถูกที่คัน
พูดง่าย ๆ คือ
“ประชาชนยังคงต้องพึ่งตัวเอง”
.
ถ้าจะรอด
ต้องฟังเสียงตลาด
มากกว่าฟังเสียงในห้องประชุม
ที่บางครั้งนั่งอยู่กันสิบกว่าคน
แต่ไม่มีใครกล้าพูดว่า
“ของมันขายไม่ออก”
.
บทเรียนจากประวัติศาสตร์การเมือง
คือการยึดติดกับอำนาจ
สุดท้ายอาจไม่เหลืออะไรเลย
.
เช่นเดียวกับวงการอสังหาฯ
ที่ยึดติดกับกำไรเดิม ๆ
ราคาที่เคยขายได้ดี
หรือ demand ที่เคยมีมหาศาล
ถ้าไม่ปรับ ไม่ลด ego
วันหนึ่งอาจไม่เหลือแม้แต่กำไรให้เห็น
.
ในวันที่ไม่มีต่างชาติมาช่วย
ไม่มีรัฐบาลมาประเคนมาตรการกระตุ้นให้
ทุก developer ต้องเรียนรู้
ที่จะเสียอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต
ปรับแผน ลดต้นทุน
ขายจริงใจ
ไม่ใช่เอาแต่ hype ปลอมๆ
.
ถ้าทำได้
ก็ยังพอเดินต่อได้
ในยุคกระแสไม่เป็นใจ
แต่ถ้ายังหลงกับความสำเร็จเก่า
เร่งสร้างโครงการแพง ๆ
รอคนที่ไม่มีอยู่จริง
สุดท้ายอาจกลายเป็น “บ้านร้างกลางเมือง”
ที่ใครผ่านไปก็ถ่ายรูปลง Social แค่นั้น
.
พูดถึง developer ว่าหนักแล้ว…
วงการเอเจ้นท์ก็ไม่ต่างกัน
หรืออาจจะ “หนักกว่า”
.
เมื่อก่อนเอเจ้นท์แปะป้าย
ขับรถพาลูกค้าไปดูบ้าน
เสนอหน้างานด้วยบริการ
และน้ำใจคนไทยแท้ ๆ
.
แต่ยุคนี้โลกหมุนเร็วเกินกว่า
ที่เอเจ้นท์ไทยหลายคนจะตั้งตัวทัน
.
เพราะตอนนี้บริษัททุนต่างชาติ
เดินเข้ามาพร้อมเทคโนโลยีล้ำยุค
มีระบบ AI ที่ “ดูดข้อมูลอสังหา”
ทั้งตลาดในพริบตาเดียว
.
รู้หมดว่าโครงการไหน
ค้างสต๊อกกี่ห้อง
ใครขาย ขายราคาไหน
ทำเลไหนขายดี
จุดไหนตัน จุดไหนรั่ว
รู้ลึกยิ่งกว่าที่เจ้าของโครงการเสียอีก
.
ในขณะที่เอเจ้นท์ไทย…
ยังโพสต์ในเฟซบุ๊ก
แข่งกันลดคอม
กดราคากันเอง
เอาแค่พอใช้จ่ายเดือนชนเดือน
.
หวังเอาเศษคอมเล็ก ๆ น้อย ๆ
มาประคองชีวิต
บางคนถึงขั้น “ขายListings“
กับเอเจ้นท์ด้วยกันเอง
เพราะเก็บมาเยอะ
แต่ก็ปล่อยเองไม่ได้สักห้อง
.
นี่คือบทเรียนสำคัญ…
โลกมันหมุนเร็ว
ใครตามไม่ทันก็จะถูกทิ้ง
.
เอเจ้นท์ไทย
ที่ยังมัวแต่แชร์โพสต์ฟรี
ไม่เก็บข้อมูล
ไม่เรียนรู้การใช้เทคโนโลยี
ไม่สร้างแบรนด์ตัวเอง
วันหนึ่งจะตื่นมาแล้วพบว่า…
ไม่มีที่ยืนแบบงงๆ
.
เพราะในขณะที่
คุณยังพิมพ์ข้อความบนมือถือ
ทีละประโยค
.
AI ของต่างชาติ
สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าหลายพันคน
จับคู่ผู้ซื้อกับผู้ขายได้ทันที
จบดีลในเวลาไม่กี่วินาที
.
สุดท้ายก็จะเหลือแต่สนามดินทรายแห้งๆ
ที่มีแต่ซากกระดูกเนื้อ
โดนแทะจนหมด
แล้วเหลือให้เอเจ้นท์ไทย
แย่งกันหากิน
.
นี่คือประวัติศาสตร์
ที่ต้องเรียนรู้
ไม่ใช่แค่การเมือง
ไม่ใช่แค่การพัฒนาโครงการ
แต่หมายถึง
การปรับตัวของทุกคนในวงการ
.
ตอนนี้ต่างชาติไม่ได้มาแบบเดิม
ที่ซื้อคอนโดเป็นชั้น ๆ
แต่เขามา “ดูดข้อมูล” “ดูดดีล”
และ “ดูดตลาด” ทั้งระบบ
.
โลกอนาคตไม่มีที่ให้คนช้า
ไม่มีที่ให้คนขี้เกียจ
ไม่มีที่ให้คนที่ยังไม่ยอมเรียนรู้
.
บทเรียนจากอดีต
มันไม่เคยปราณีใคร
ใครที่เรียนรู้เร็ว รอด
ใครที่เรียนไม่เป็น
ก็ได้แต่เตรียมประกาศ
“ลดราคาพิเศษ”
รอวัน clearance sale
หรือออกจากวงการไปเงียบๆ
.
#อสังหาฯต้องเรียนรู้จากอดีต
#เอเจ้นท์ไทยต้องตื่นก่อนจะไม่มีที่ยืน
#ปรับตัวให้ทันไม่งั้นพัง
.
ร่วมพูดคุยกันได้ที่
https://www.facebook.com/Ex.MatchingProperty/posts/pfbid02ixgdXF143mimXzfUvAmBfiQktWHUeVByStzF1G2g4cgkkX9ykEgLiw5r353uGuQKl