เราต้องเก่งขึ้น เพราะคู่แข่งเก่งขึ้นทุกวัน — วิเคราะห์ตลาดออนไลน์ 2019

#ยาวระดับนึง #แต่ถ้าอยากรู้ก็ต้องอ่าน

.

"เราต้องเก่งขึ้น เพราะคู่แข่งเราเก่งขึ้นทุกวัน"

.

กำลังจะผ่านไปสำหรับ 2018

เป็นปีที่ถือว่า

แวดวงการตลาดออนไลน์

ร้อนแรงมากที่สุดในปีนึงเลยทีเดียว

.

ไม่มีอีกแล้วกับยุค Blue Ocean

เหมือนสมัย 4 ปีก่อน

ปีหน้าทิศทางตลาดออนไลน์จะไปทางไหน

Trend ใหม่ๆจะเป็นอย่างไร

เตรียมความพร้อมกันแล้วแค่ไหน

มาดูกัน

.

.

.

ตอนนี้คนเริ่มเปิดใจกับการซื้อของออนไลน์

การเติบโตเพิ่มขึ้น 35%

.

Social Commerce คือเอกลักษณ์เฉพาะของตลาดไทย

(Social Commerce คือ ซื้อ-ขายผ่านแชท)

ช่องทางนี้ยังเติบโตอยู่

.

วัยรุ่นไม่ได้เล่น FB แล้วนะ

แต่เป็น IG ต่างหาก

.

ปีหน้า IG จะโตมาก

สำหรับตลาดวัยรุ่น

โดยเฉพาะแฟชั่น

.

Line เริ่มซื้อโฆษณาได้

โฆษณาจะไปแสดงอยู่บน Timeline Feed

.

แม่ค้าเริ่มขี้เกียจขนของไปตลาดนัด

ใช้การ Live ขายของ

หรือหันไปทางตลาดออนไลน์แทน

.

ตอนนี้ตลาดออนไลน์

ใครที่สนใจจะก้าวลงมาเล่น

ก็ยังถือว่าทันอยู่

แต่อาจจะไม่หวือหวา

เหมือนสมัยก่อน

.

Life Cycle

แต่ละ Product สั้นลงมาก

อาจจะเหนื่อยเพิ่มขึ้น

.

Business Model

มีอยู่ 2 แบบ

.

1.การซื้อมาขายไป

ไปจับของจากจีนมาขาย

ยิง Ads ปั่นกระแส

พอเริ่มซาลง

ก็ไปจับตัวอื่นต่อ

ต้องว่องไวเรื่องสินค้า

**ดูของให้เป็น**

.

2.สร้างธุรกิจยาวๆ

เป็นปีของการสร้างแบรนด์

ธุรกิจการสร้างแบรนด์

จะฟาดฟันกันเลือดสาด

.

การทำงาน FB

ต้องยอมรับว่ายากขึ้น

Reach ตก-Ads แพง-กฏเข้ม-คู่แข่งเยอะ

.

สมัยนี้ Reach ตกลงมามาก

ไม่เหมือนสมัย2ปีก่อน

Reach เกิน 100%

เลยจำเป็นต้องยิง Ads ให้เก่งขึ้น

.

จำเป็นต้องสำรองงบส่วนนึง

ไว้ยิงโฆษณา

เงินต้องเป็นน้ำหล่อเลี้ยง

ให้ธุรกิจขับเคลื่อน

.

ค่าโฆษณา หาร จำนวนคนที่เข้ามา

ถือเป็นต้นทุนเข้ามาในสินค้า

อย่าลืมคิดคำนวณตรงนี้ด้วยเป็นอันขาด

.

กฏเข้มขึ้น

เพจจะโดนปิดระนาว

อาหารเสริม,สินค้าสรรพคุณเกินจริง (Overclaim)

คนที่ขายสินค้าสุ่มเสี่ยง

ระวังให้มาก

.

ถ้าเทียบสัดส่วนระหว่าง

ธุรกิจที่ตายไปกับธุรกิจขาขึ้น

ยังอยู่ในสัดส่วน 60 : 40

ต้องพาตัวเองเข้าไปอยู่ใน 40 ให้ได้

.

การยิงแอด

อย่าสนใจงบยิงที่แพงขึ้น

หรือพยายามทำให้ค่าแอดถูกลง

ให้เน้นดูยอดขายเป็นหลัก

.

การยิงแอดคือการโยนสะพาน

ให้ข้ามไปอีกฝั่งนึง

คนจะเดินข้ามสะพานมามั้ย

นั่นขึ้นอยู่กับสินค้า

กับ Content

.

เหวี่ยงเบ็ดลงไป

แต่ปลาไม่ยอมกิน

เพราะว่าเหยื่อไม่อร่อย

มันก็เท่านั้น

.

จงให้ความสำคัญ

กับเรื่องของสินค้า

และContent ให้มาก

.

Life Cycle ธุรกิจที่สั้นลงมาก

ปีหน้าการแข่งขันสูง

ช่วงโกยต้องรีบโกย

ช่วงปล่อยต้องรีบปล่อย

ทำใจให้ได้ ปล่อยให้เป็น

.

"ปล่อยให้เป็น"

หมายความว่า

ถ้าถึงเวลาที่กระแสลง

สินค้าไม่เป็นที่ต้องการของตลาดแล้ว

ต้องปล่อยให้มันตายไป

อย่ารักสินค้าตัวเองมากเกินไป

.

หรืออาจจะใช้สินค้าตัวอื่น

เข้ามาขยายเพิ่มเติมกับสินค้าเดิม

(Line Extension)

.

นักการตลาดที่เก่ง

ต้องสร้างแบรนด์

และ Kill แบรนด์ทิ้งได้

.

ถ้าอยากให้ Life Cycle อยู่นานๆ

ต้องลุกมาสร้างแบรนด์

.

Concept เหมือนง่าย

แต่เอาเข้าจริงทำยากมาก

.

ถ้าธุรกิจยังไปได้ดี

ให้เพิ่มงบโฆษณา

รีบโกยให้มากที่สุด

.

เวลาจะเพิ่มเงิน

คำนวน Payoutและกำไร ให้เป็น

Payout คือลงเงินไปแล้ว

แล้วสร้างกำไรให้เรากี่เท่า

.

เช่น ลงเงินไป 1 หมื่น

ได้กำไร 1 แสน

Payout = 10 เท่า

.

ถ้าถามว่าลงเงินไป 2 หมื่น

จะได้กำไร 2 แสนมั้ย

อาจจะไม่ใช่

เพราะ Payout ไม่ได้กำไร

เป็นสัดส่วนขนาดนั้น

ให้ลองคำนวนดูว่าคุ้มมั้ย?

.

เพราะลักษณะของ

การลงเงิน FB

บาทแรกๆจะถูก

เพราะระบบจะหาคน

ที่มีประสิทธิภาพที่สุดก่อน

.

กล้าลงเงินให้เยอะขึ้น

แล้วดูุส่วนที่เรา Happy

ว่าอยู่ในจุดไหน

.

"เลือกสินค้าให้ถูก

สร้างcontent ให้ดี

การนำเสนอที่น่าสนใจ

ยิงโฆษณาให้เก่ง"

.

นี่คือหลักสำคัญ

ที่ทำให้เราเติบโต

.

การสร้างแบรนด์

คือการสร้างคุณค่าให้กับสินค้า

เหมือนกับเราแต่งตัวออกไปข้างนอก

ก็เหมือนกับการสร้างคุณค่าให้กับตัวเอง

.

สร้างคุณค่าสร้างยังไง?

สีของสินค้าที่ชัดเจน

ความสำคัญของการตกแต่ง

การให้ความสำคัญกับพนักงานหรือทีมงาน

Packaging

หรือเรียกได้ว่า

ใส่ใจและให้ความสำคัญ

กับองค์ประกอบเล็กๆน้อยๆ

ทุกรายละเอียด

ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกดี

เท่าที่เราจะทำได้

.

เมื่อลูกค้าเกิดความพึงพอใจ

ทำให้เราสามารถอัพราคาขึ้นได้

แล้วธุรกิจจะอยู่ได้ยาว

.

การที่คนจะซื้อสินค้า

หลักๆมีอยู่ 2อย่าง

1.Funcition Benefit

ซื้อเพราะการใช้งานตอบสนองความต้องการ

2.Emotion Benefit

ซื้อด้วยอารมณ์

เช่น ทำไมต้องซื้อรถ Porsche

ทั้งๆที่รถยี่ห้ออื่นก็ขับได้เหมือนกัน

.

สมัยนี้ประสิทธิภาพสินค้าอย่างเดียวไม่พอแล้ว

จะต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกดีกับแบรนด์เราด้วย

.

ดังนั้นปีหน้า

ลองทบทวนรายละเอียดในสินค้าเรา

ที่สามารถทำให้แบรนด์เราดูมีคุณค่า

มีความน่าสนใจในสายตาลูกค้า

เพื่อจะได้ยืนทัดเทียมกับแบรนด์อื่นได้

.

ปีหน้าหมดยุคใช้ FB อย่างเดียวแล้ว

ใช้ Multi Platform มาประกอบกัน

เพื่อให้ผลรวมออกมาได้ประสิทธิภาพที่สุด

เช่น Line@

.

Line @ มี Broadcast

Line@ Platform

ที่มีโฆษณาแทรกใน Timeline Feed

และราคายังถูกอยู่มาก

โฆษณายังต้องซื้อผ่าน Agency

option ยังไม่ละเอียดเท่า FB

.

IG สามารถสร้าง mood และ Emotion ได้

พวกแฟชั่นนี่เหมาะมาก

.

ถ้าPlanหลักๆของเราคือ

การใช้ดารา หรือ Influencer

IG ถือว่าเป็นบ้านหลักแทนFB ได้เลย

.

Google Search

หลักๆคนยังใช้ GG ในการหาข้อมูล

สร้าง Awareness ได้ดี

ทำ Re-Marketing ได้

.

Youtube

ราคายังไม่แพง

และสามารถทำ Re-Marketing ได้เหมือนกัน

แถม Cost Per View ยังถูกกว่า FB มาก

.

ต้องเปิดใจกับสิ่งใหม่ๆ

อย่าหวังพึ่งพี่มาร์คอย่างเดียว

.

**ของเล่นใหม่***

FB Broadcast

สามารถยิงข้อความผ่านทาง Inbox

โดยแยกย่อยจาก Label ที่เราเซ็ตได้

ตอนนี้ส่งได้แค่ 2 ครั้งต่อเดือน

มากกว่านี้โดนบล็อค

ช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงทดลอง

และยังฟรีอยู่

.

หรือถ้าส่งไปแล้วมี Negative Feedback เยอะ

เค้าจะคำนวนจาก Feedback

และอาจบล็อคเราชั่วคราวเช่นกัน

.

Chatbot

ตัวนี้ไม่พูดถึงก็ดูจะแปลก

สามารถตอบข้อความซ้ำๆแทนเราได้

เพียงแค่เราใส่รูปแบบประโยคถาม-ตอบไว้ล่วงหน้า

เป็นตัวเด็ดที่ทำให้ธุรกิจเรา

มีrespondตลอดเวลา

เหมาะกับธุรกิจขนาดกลางเป็นต้นไป

.

Ads-Break

โฆษณาคั่นคลิป

เหมาะกับใช้เพจขนาดใหญ่

(ไลค์เกินหมื่น)

.

หรือถ้าวิดีโอเราใน 1 นาที

มีคนดูมากกว่า3หมื่นครั้ง

ในช่วง 2 เดือน

เราจะได้ 5 USD ต่อ 1 พันวิว

(จ่ายให้เยอะกว่า Youtube)

.

IG Story

เป็นของใหม่ ที่ยังไม่เสร็จ

และราคาโฆษณายังถูกมาก (เพราะคนยังซื้อกันไม่เป็น)

แต่ข้อเสียคือยังปิดการขายได้ไม่มาก

เน้นการเข้าถึงในราคาที่ยังถูกมากกว่า

.

IG Shopping

สามารถ Tag สินค้าเข้าไปใน IG ได้แล้ว

และสามารถ Link มายัง Website ได้

อะไรหลายอย่างยังไม่สมบูรณ์

แต่ปีหน้าจะเริ่มมีคำว่า IG Commerce มากขึ้น

.

กลับมาที่ Content

Content ต้องดีเพื่อปิดการขาย

ต้องขยันเทสและวัดผลให้เป็น

อย่าคิดว่าเราเดาแล้วจะถูกเสมอ

สิ่งที่เราไม่ชอบ

ลูกค้าอาจจะชอบก็ได้

.

โฆษณาที่ดี

คือโฆษณาที่สร้างยอดขายให้เรามากที่สุด

Relevance Score ที่ดี

หรือต้นทุนยิงแอดถูก

อาจจะไม่ใช่ตัวหลักที่เอาไว้วัดผล

.

ศึกษากฏให้ดีระวังโดนปิดเพจ

สินค้าที่สุ่มเสี่ยง

เช่น ยาลดน้ำหนัก,อาหารเสริม

ต้องระวังให้มาก

เห็นว่าคนทำผิด

แต่ยังไม่โดนแบน

ก็ไม่ใช่ว่าเค้าจะยังอยู่ตลอด

FB ใช้ระบบตรวจวน

การตรวจเข้มขึ้นเรื่อยๆ

ปีหน้าเราจะทำงานยากขึ้น

กรณีไหนที่เรามั่นใจว่าเราไม่ผิด

สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้

.

Campaign Message จะดีขึ้น

เหมาะกับคนที่เคย Inbox มาหาเรา

Campaign Message จะสามารถปิดการขายได้มากขึ้น

.

Video Content จะมาแรงเหมือนเดิม

Video จะปิดการขายได้ดีกว่ารูป

Size Video จะเป็นแนวตั้ง (Video Vertical)

และเป็น Square มากขึ้น

Video ต้องสั้นและกระชับ

โชว์จุดพีค,สิ่งที่ดีที่สุดภายใน 3-5วิ

ต้องหยุดสายตาคนให้ได้

ธรรมชาติของคนใน FB ไม่เหมือนคนดู TV

.

คนสมัยนี้ต้องตัดต่อวิดีโอเป็น

สำหรับคนทำกราฟิกภาพนิ่ง

ยุคนี้ต้องทำวิดีโอแบบง่ายๆให้ได้

ใครทำไม่เป็นจริงๆ

แนะนำใช้ Freelance ใน fastwork.co

หาคนทำวีดีโอ,ถ่ายรูป,รีวิว มีหมด

.

จะขายสินค้าอย่าเอาแต่ยิง Ads

ต้องหา Content คุณภาพ

ที่ทำให้เค้าเชื่อให้ได้

ว่าซื้อสินค้าไปแล้ว

มันสามารถตอบโจทย์

และได้รับความพึงพอใจตามที่ต้องการ

.

ถ้าอยากสร้าง Content ที่ดี

Influencer สำคัญมาก

ทั้ง Micro และ Macro

มีบทบาทที่ต่างกัน

เลือกใช้ให้ถูก

.

หลักๆคือ Content ต้อง Real

คนธรรมดามีความน่าเชื่อถือ

มากกว่า Presenter อย่างญาญ่าหรือณเดชน์

.

Presenter หรือ Blogger ตัวใหญ่ๆ

สร้างได้แค่ Awareness

ส่วนคนธรรมดาหรือ Blogger ตัวเล็กๆ

เอาไว้สร้างความ Real

เพราะคนอยากซื้อสินค้า

แบบไม่ต้องปรุงแต่งสรรพคุณมาก

.

สรุปสั้นๆ อย่างที่เคยโพสไป

"เราต้องเก่งขึ้น "

ตลาดยังโตได้อีกไกล

ยังมีพื้นที่ให้เรากอบโกยเงินอีกมาก

สิ่งสำคัญคือเราต้องมี Mindset พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ

.

เราต้องเรียนรู้Platform

และเครื่องมือใหม่ๆ

ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำเอง

แต่อย่างน้อยก็คุยกับ Agency ได้รู้เรื่อง

เพื่อให้ตรงจุดประสงค์กับสิ่งที่เราอยากได้

จะได้ลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

และคุ้มค่ากับเงินทุกบาทที่เสียไป

.

ขอให้โชคดี

.

ร่วมพูดคุยกันได้ที่

https://www.facebook.com/Ex.MatchingProperty/posts/pfbid05gVQGZUuJzrj6tGZbRifRf53bDyfBFoHpzgdXbD8o1hAdpht82NeYBoLwhaWHqjUl