พลังงานลี้ลับในบ้าน: เรื่องจริงจากหมู่บ้านย่านบางนา

เรื่องเล่าการสัมผัสพลังงานในบ้านที่ขายไม่ออก กับบทเรียนเรื่องศรัทธาและการปลดปล่อย

post date  โพสต์เมื่อ 17 เม.ย. 2568   view 86359
article

ติดค้างเรื่องสัมผัสพลังงานไว้เมื่อปีก่อน(เหมือนนาน)

ต้องรีบเล่าเดี๋ยวจะลืมซะก่อน

มาๆ นั่งล้อมวงกันนะ

เดี๋ยวจะเหลานิทานก่อนนอนให้ฟัง

.

.

.

บ้านหลังนี้เป็นหลังที่...

สมัยก่อนเพื่อนเอเจ้นท์

เคยชวนให้ช่วยมาดูบ้านหลังนี้

เป็นหมู่บ้านจัดสรร

แถววงแหวนอ่อนนุช-บางนา

.

จริงๆหลังนี้คุยกันมาสักพักแล้ว

ว่าทำยังไงถึงจะขายบ้านหลังนี้ได้

เพราะบ้านก็สวย สภาพดี

บ้านเป็นบ้าน Type ใหญ่สุด

และราคาถูกที่สุดในโครงการ

.

มีคนมาดูอยู่เรื่อยๆ

แต่ก็ไม่จบดิลสักที

.

นางเลยคิดว่า

เรื่องของทางตัวเลขและกายภาพคือดีมาก

งั้นน่าจะเป็นเรื่องสิ่งลี้ลับแล้วล่ะ

.

ตอนนั้นก็ได้แต่รับเรื่องไว้นะ

แต่ยังไม่ได้ไปบ้านหลังนั้น

เพราะทำเลอยู่นอกโซนไปเยอะเลย

.

แต่เมื่อคราวถึงเวลา

ก็มีโอกาสได้มา

ตอนนั้นทางเจ้าของต้องการใช้เงินด่วน

เลยมีการให้ช่วยไปประเมินบ้านเพื่อเข้าจำนอง

.

พอดีมีทุนอยู่แล้ว

เลยนัดทุนเข้าไปดูเพื่อจะประเมิน

แล้วแจ้งเงื่อนไขกับเจ้าของบ้านไป

ซึ่งเจ้าของบ้านก็โอเคกับเงื่อนไข

เลยเป็นเหตุผลที่มีโอกาสได้ไปบ้านหลังนั้น

.

ผมไปถึงที่โครงการช่วงเที่ยง

ระหว่างที่ปล่อยให้ทีมงานประเมินราคาบ้านหลังนี้

ผมก็ได้เดินดูรอบๆบ้าน

โดยที่จะยังไม่ถามอะไร

และไม่ต้องการให้ใครแจ้งข้อมูลอะไร

เพราะต้องการสัมผัสด้วยตัวเองก่อน

.

บ้า่นหลังนี้อยู่ในซอยท้ายสุดของหมู่บ้าน

แต่เป็นบ้านหลังแรกในซอยสุดท้าย

ซึ่งเป็นหัวมุมถนนหลักพอดี

.

ด้วยความที่ตัวบ้านเป็นหลังมุม

เลยมีพื้นที่ตรงสวนค่อนข้างใหญ่

และมีพื้นที่หลังบ้านเป็นลานซักผ้า

ในความกว้าง 2 คนเดินไม่ต้องเบี่ยงหลบหากัน

.

บ้านหลังนี้ก็เป็นอีกหลังที่เหมือนหลายๆหมู่บ้าน

คือพื้นที่ไม่ได้ลงเสาไว้

พอผ่านไปสัก3-5ปี

พื้นก็จะทรุดมาระดับนึง

หรือนี่อาจจะเป็นสาเหตุหลัก

ที่บ้านยังปล่อยไม่ได้ก็ได้

.

เดินรอบบ้านเสร็จก็ถอดรองเท้าตรงประตูโรงรถ

เพื่อเดินเข้ามาในบ้าน

พอเข้ามาที่ประตูบานนี้ปุ๊บ

เราจะเห็น Pantry ครัวฝรั่ง

มุมหันออกไปทางข้างบ้านฝั่งซ้าย

ถ้าเราเข้ามาในตัวบ้าน

จะเห็นคนที่อยู่ตรง Pantry หันซ้ายให้เรา

.

ฝั่งซ้ายจะเป็นห้องโถง

บันไดขึ้นชั้น 2 อยู่ฝั่งขวามือ

โดยฝั่งซ้ายจะมีผนังกันนิดหน่อย

ต้องเดินสัก 2 ก้าวถึงจะเห็นห้องโถง

.

ก้าวที่สองที่เดินเข้าไปในโถง

ยืนอยู่ตรงกลางระหว่าง Pantry ครัวกับห้องโถง

(จุดแดงในภาพ)

เราสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง

แต่เบาบางมาก บางจริงๆ

เหมือนประมาณฝุ่นละอองเล็กๆเลย

.

****

ระดับความเข้มข้นสุด

ที่เคยสัมผัสได้คือ

เป็นกลุ่มควันคล้ายๆหมอก

การเคลื่อนไหวผิดธรรมชาติมากๆ

ไม่รู้จะมีเข้มกว่านี้หรือเปล่า

แต่แค่นี้ก็หนักหนาสาหัสอยู่นะ

***ย้อนไปอ่านได้ในเคสบ้านเจ้าพระยาตรงอโศก

https://www.facebook.com/Ex.state/posts/10162048081708696

***

.

.

.

มันบางจนแยกไม่ออกเลยว่าคืออะไร

หรืออยู่ตรงไหน

เลยขอละไว้ก่อน

เดินไปตรงห้องโถง / ห้องทำงาน ชั้นล่างไม่มีอะไร

.

ขึ้นไปชั้น 2

มีห้องนอนอยู่ 3 ห้อง

แอบรู้สึกอยู่นิดนึง

ตรงห้องนอนเล็กที่หันไปทางหลังบ้าน

แต่ Master Bedroom ที่อยู่หน้าบ้าน

ไม่มีความรู้สึกสัมผัสได้ถึงอะไร

.

พอลงมาข้างล่าง

ก็เป็นจุดเดิมที่ยังรู้สึกถึงอะไรอยู่

ก็บอกเพื่อนเอเจ้นท์ไปว่าสัมผัสได้ตรงนี้

แต่ไม่รู้มันคืออะไร

.

พอเดินดูทั่วบ้านเสร็จ

ก็ละเรื่องพลังงานไว้

แล้วมาคุยเรื่องจำนองต่อ

.

ตอนนั้นกำลังนายทุนอีกคนมาดูที่บ้าน

ซึ่งมาจากต่างจังหวัด

อาจจะใช้เวลาการเดินทางนิดนึง

ระหว่างรอเลยขอตัวเจ้าของบ้าน

มาทานข้าวกับเพื่อนตรงร้านอาหารหน้าหมู่บ้าน

.

.

.

ระหว่างที่กำลังทานข้าวกันอยู่

ก็เลยเล่าถึงสิ่งที่สัมผัสได้ในบ้าน

ซึ่งผมพูดกับเพื่อนอยู่อย่างนึงคือ

เข้าไปบ้านนีี้ สิ่งแรกที่รู้สึกได้เลยคือ "เศร้า"

.

เข้าไปปุ๊บอารมณ์เปลี่ยนเลย

อยู่ๆก็มีความรู้สึกเศร้า

ซึ่งเพื่อนเอเจ้นท์ก็ถามว่า

เป็นเพราะบ้านไฟไม่สว่างรึเปล่า

.

ซึ่งก็จริง

ชั้น 2 ไฟสลัวมาก

แต่....

สลัวกับเศร้า

มันมีความแตกต่างกันอยู่

.

ก็เลยถามเพื่อนว่า

ปกติเจ้าของอยู่บ้านนี้รึเปล่า

เคยปล่อยเช่ามั้ย

.

เพื่อนบอกว่า

ปกติบ้านหลังนี้เจ้าของไม่ค่อยอยู่

และเคยปล่อยเช่าอยู่ครั้งนึง

แต่ก็หมดสัญญาไปแล้ว

และตอนนี้เจ้าของมาอยู่เองบ้างประปราย

.

.

.

ระหว่างที่เราสำรวจตัวบ้าน

เราก็ถ่ายรูปทั้งในบ้านและนอกบ้าน

แล้วส่งให้กับที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านพลังงาน

ผมแจ้งว่าบ้านหลังนี้มีพลังงาน

แต่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน

ช่วยดูให้หน่อย

เพราะนางเป็นคนมีญาณที่สูงกว่าเรามาก

.

ซึ่งสักพักนางก็โทรมาให้ข้อมูลว่า

เจ้าของบ้านเคยบูชาอะไรบางอย่างอยู่

เป็นของดีด้วยนะ

แต่ตอนนี้ไม่อยู่แล้ว

เรื่องราวต่างๆให้ถามกับเจ้าของบ้านดู

ว่าตัวเค้าหรือผู้เช่า

เคยอัญเชิญอะไรมาไว้ในบ้านมั้ย

.

.

.

หลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จ

ประจวบพอดีกับนายทุนมาถึงพอดี

ก็มาดูบ้านและคุยธุระกันตามปกติ

กว่าจะเสร็จเรื่องเสร็จราว

ก็เกือบ6โมงเย็นแล้ว

.

.

.

มาถึงไฮไลท์ที่ทุกคนอยากรู้

ว่าจริงๆแล้วบ้านนี้มีอะไร

.

หลังจากที่นายทุนกลับไป

ทุกคนยืนล้อมวงกันตรงหน้า Pantry ครัว

ผมเอ่ยปากถามเจ้าของบ้านว่า

คุณ M ครับ(นามสมมติเจ้าของบ้าน)

ตอนที่เคยอยู่บ้านหลังนี้

เคยบูชาอะไรไว้มั้ยครับ

.

คุณ M นิ่งสักพักนึงและตอบว่า

"เคยบูชาพญานาค

แล้วมีคนเช่ามาพักอาศัยอยู่

คนเช่าก็บูชาเหมือนกัน

คุณ M ก็จัดหาอ่างพญานาคไว้ให้

วางไว้ตรงหน้าบ้าน"

.

Ex : แล้วตอนนี้อยู่ไหนครับ

M : ทิ้งไปแล้ว

Ex : ทิ้งไว้ที่ไหนครับ

M : ไม่รู้เหมือนกัน ให้คนสวนไปทิ้ง

Ex : คุณรู้มั้ยว่าตอนนี้เค้าอยู่ไหน

M : (ส่ายหน้า)

.

ผมชี้ไปที่หลังบ้านแล้วบอกว่า

"ตอนนี้เค้าอยู่ตรงต้นไผ่หลังบ้านครับ"

.

(ตอนนี้เพื่อนเอเจ้นท์ 2 คนขนลุกซู่ ขนแขนstand up รัวๆ)

.

เพื่อนเอเจ้นท์พูดขึ้นมาว่า

"ว่าแล้ว ตอนเดินไปหลังบ้านก็รู้สึกแปลกๆ

รู้สึกอึดอัดเหมือนอยู่ในถ้ำตลอดเวลา"

.

ทุกอย่างที่สัมผัสได้

พอเอาข้อมูลหลายๆอย่างมาปะติดปะต่อกัน

ปริศนาก็ถูกไขแล้ว

.

จุดที่บอกว่าตรงกลางบ้านชั้น 1

กับห้องนอนเล็กชั้นบน

เข้าไปแล้วสัมผัสพลังงาน

แต่เป็นพลังงานที่อ่อนมากๆ

มันคือจุดที่มองทะลุไปหลังบ้าน

แล้วเห็นต้นไผ่พอดี

.

เข้ามาแล้วรู้สึกเศร้า

เพราะเจ้าของบ้านเคยบูชา

แล้วสุดท้ายทิ้งภาชนะนั้นไป

มันเป็นเหมือนที่พักพิงของเค้า

จนเค้าต้องหาที่สถิตใหม่

โดยที่เจ้าของไม่รู้ผลของการกระทำตัวเอง

.

ตรงต้นไผ่

เป็นจุดที่เป็นมุมอับแสง

แดดส่องไม่ถึงตลอดวัน

เค้าจึงเลือกไปอยู่ตรงนั้น

.

"คุณรู้มั้ย เค้าเสียใจมากนะ

ที่คุณเชิญเค้าเข้ามาแล้ว

อยู่ๆคุณก็ไปทิ้งเค้า

เค้าไม่มีที่สถิต

เลยต้องไปอยู่ตรงต้นไผ่หลังบ้าน"

.

"บ้านหลังนี้จะขายได้

ต้องให้เค้าช่วยเปิดทางด้วย

ตอนนี้เค้าปิดอยู่

เพราะเค้าอยากให้คุณกลับมาเคลียร์กับเค้า"

ผมกล่าว

.

คุณ M แจ้งว่า

เค้าก็คิดไว้เหมือนกัน

ว่าถ้าบ้านหลังนี้ขายได้

เค้าจะอุทิศบุญกุศลให้

.

ผมบอกว่า "ไม่ได้ครับ!!!

ตอนนี้เค้าไม่มีพลังอะไรเลย

เค้าที่สถิตย์ยังไม่มี

แล้วเค้าจะมีพลังให้บ้านหลังนี้ขายได้หรอ

ไม่มีทาง!!!

คุณต้องไปฝ่ายทำบุญให้เค้าก่อนนะ"

.

"แล้วเราต้องทำยังไง" คุณ M ถาม

.

(ผมเดินไปเอาเหรียญบาทในรถ แล้วเดินกลับมายื่นให้คุณ M)

.

"คุณ M เดินไปหลังบ้าน

ตรงต้นไผ่นะครับ

เอาเหรียญนี้ไปฝังดิน

เป็นเหรียญธรรมดานี้แหละครับ

ไม่ได้มีการปลุกเสกอะไร

มันเป็นตัวสื่อเฉยๆ

.

แล้วให้เอามือแตะที่ดินหรือต้นไผ่

แล้วคุยกับเค้านะครับ

คุยเป็นภาษาทั่วไป

เหมือนคุณไปทิ้งหมาแมวนั่นแหละ

คุณอยากจะพูดอะไรกับเค้า

ก็ตั้งจิตตั้งสมาธิแล้วสื่อไปได้เลย"

.

ระหว่างที่เค้าเดินไปนั่งยองๆ

ก้มหน้าเอามือจับตรงต้นไผ่อยู่นาน

.

ผมเดินไปเอาขวดน้ำเล็กๆหน้าบ้านมา

แล้วเดินไปหาคุณ M หลังบ้าน

.

"คุณ M ครับ เอาน้ำขวดนี้กรวดน้ำแล้วว่าตามผมนะครับ"

.

หลักๆเป็นการขอขมากรรม

ที่เจ้าของบ้านไห้ทำกับเค้า

และให้อุทิศส่วนบุญส่วนกุศล

ที่คุณ M เคยทำ....ให้กับเค้า

.

และพูดให้เค้าช่วยเปิดทาง

ให้มีการเปลี่ยนมือคนที่จะเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้

เพื่อให้คนใหม่ที่เข้ามา

เข้ามาใช้ประโยชน์

จะได้มีแต่เรื่องดีๆเข้ามาในบ้านหลังนี้

***ห้ามพูดว่าขายนะ***

.

หลังจากที่มีการกรวดน้ำอุทิศบุญกุศล

และการขอขมากรรมกันไป

ผมเดินไปหาเพื่อนเอเจ้นท์ที่อยู่ในบ้าน

และแจ้งเพื่อนว่า

.

หลังจากนี้

ก่อนที่จะมีลูกค้ามาบ้าน

ให้เพื่อนมาก่อนถึงก่อนเวลานัด

.

เอามาขวดน้ำไปกรวดน้ำให้กับต้นไผ่

และกล่าวคำที่ผมจะให้ไป

ให้เค้าช่วยเปิดทาง

.

ถ้าจนถึงวันนึง

มีใบไม้อะไรโผล่ขึ้นมาจากดิน

ที่ไม่ใช่ใบไผ่

นั่นคือสัญญาที่ดี

.

ต่อจากนี้ก็รอดูกันต่อไป

ว่าจะเป็นยังไงต่อ

ขอให้พญานาคที่อยู่ในต้นไผ่

อโหสิกรรมให้กับเจ้าของ

เปิดทางให้บ้านหลังนี้มีการเปลี่ยนมือนะครับ

.

ร่วมพูดคุยกันได้ที่

https://www.facebook.com/Ex.MatchingProperty/posts/pfbid0225ZpaX1yMNyrddBr81b9RD1zWmNXp54Hz1fVVAD7DYGg62C6ho1VzKGQsJsQGF77l

บทความที่เกี่ยวข้อง (3)